พฤษภาคม 19, 2024

    Rocket Media Lab ชวนส่อง ผู้สมัคร ส.ส.ก้าวไกล ว่ามาจากพรรคเดิม หน้าใหม่ หรือย้ายพรรค?

    Share

    จากการรับสมัครผู้สมัคร ส.ส. ทั่วประเทศเมื่อวันที่ 3-7 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา Rocket Media Lab ชวนสำรวจผู้สมัคร ส.ส.เขต ทั้ง 396 คน และบัญชีรายชื่อ 92 คน ของพรรคก้าวไกลว่าเป็นใคร มาจากไหนบ้าง เป็นผู้สมัครพรรคเดิม หน้าใหม่ หรือย้ายพรรค?

    เลือกตั้ง 66 พรรคก้าวไกลมีผู้สมัครหน้าใหม่ถึง 76%

    ในการเลือกตั้งทั่วไปปี 2566 Rocket Media Lab จัดทำฐานข้อมูลทางการเมืองของผู้สมัคร ส.ส. โดยแยกกลุ่มผู้สมัครเป็น 3 ประเภท ได้แก่

    1. ผู้สมัครจากพรรคเดิม หมายถึง อดีต ส.ส. และอดีตผู้สมัคร ส.ส. จากการเลือกตั้งปี 2562 หรือปีที่เก่ากว่านั้น

    2. ผู้สมัครที่ย้ายมาจากพรรคอื่น หมายถึง อดีต ส.ส. และอดีตผู้สมัคร ส.ส. จากการเลือกตั้งปี 2562 หรือปีที่เก่ากว่านั้น โดยนับปีล่าสุดที่ผู้สมัครคนนั้นลงสมัคร ส.ส. 

    3. ผู้สมัครหน้าใหม่ หมายถึง ผู้ที่ไม่เคยลงสมัคร ส.ส. มาก่อน ทั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขต และแบบบัญชีรายชื่อ

    เมื่อแยกว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. แบบแบ่งเขต 396 คน จากพรรคก้าวไกล ตามการจัดประเภทดังกล่าว พบว่า มีผู้สมัครจากพรรคเดิม จำนวน 66 คน คิดเป็น 16.67% มีผู้สมัครที่ย้ายมาจากพรรคอื่น จำนวน 27 คน คิดเป็น 6.82% และมีผู้สมัครหน้าใหม่ จำนวน 302 คน คิดเป็น 76.26%

    และเมื่อแยกตามภูมิภาค จะเห็นได้ว่า ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. จากพรรคเดิม มีสัดส่วนมากที่สุดที่ภาคเหนือ คิดเป็น 27.03% ซึ่งในการเลือกตั้งปี 2562 พรรคอนาคตใหม่ได้ที่นั่ง ส.ส. 5 ที่นั่งในภาคเหนือ (รวมเลือกตั้งซ่อม) และน้อยที่สุดที่ภาคใต้ คิดเป็น 11.67% ซึ่งในการเลือกตั้งปี 2562 ที่ผ่านมา พรรคก้าวไกลไม่สามารถได้ที่นั่ง ส.ส. จากภาคใต้เลยแม้แต่ที่นั่งเดียว

    ส่วนว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 2566 ที่ย้ายมาจากพรรคอื่น มีสัดส่วนมากที่สุดที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คิดเป็น 12.03% ซึ่งในการเลือกตั้งปี 2562 พรรคอนาคตใหม่ได้ที่นั่ง ส.ส. ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพียง 1 ที่นั่ง และน้อยที่สุดที่ภาคเหนือ คิดเป็น 2.7% 

    และในส่วนของผู้สมัครหน้าใหม่ จะพบว่า มีสัดส่วนมากที่สุดที่ภาคกลาง คิดเป็น 80.33% ซึ่งในการเลือกตั้งปี 2562 พรรคอนาคตใหม่ได้ ส.ส. ในภาคกลางมากที่สุด และน้อยที่สุดที่ภาคเหนือ คิดเป็น 70.27%

    ผู้สมัคร ส.ส. จากพรรคเดิม 

    เมื่อพิจารณาผู้สมัคร ส.ส. แบบแบ่งเขต 396 คนจากพรรคก้าวไกล เทียบกับฐานข้อมูลของ Rocket Media Lab พบว่า ผู้สมัคร ส.ส. แบบแบ่งเขตที่มาจากพรรคเดิม* จำนวน 66 คน ของพรรคก้าวไกล สามารถแบ่งออกได้ดังนี้

    1. ส.ส. พรรคอนาคตใหม่เดิมจากปี 2562 จำนวน 8 คน คิดเป็น 12.12%

    2. อดีตผู้สมัคร ส.ส. พรรคอนาคตใหม่เดิมจากปี 2562 จำนวน 53 คน คิดเป็น 80.30%

    3. อดีต ส.ส. บัญชีรายชื่อจากปี 2562 จำนวน 1 คน คิดเป็น 1.52%

    4. อดีตผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ 4 คน คิดเป็น 6.06%

    *จากพรรคเดิมในกรณีของพรรคก้าวไกล หมายรวมไปถึงพรรคอนาคตใหม่ด้วย

    จากข้อมูลจะเห็นว่า ผู้สมัคร ส.ส. ในการเลือกตั้ง 2566 ของพรรคก้าวไกลมาจาก ส.ส. เดิมของพรรคอนาคตใหม่ในปี 2562 เพียง 8 คน ซึ่งในปี 2562 พรรคอนาคตใหม่มี ส.ส. แบบแบ่งเขต 31 คน (รวมเลือกตั้งซ่อม) จะพบว่า มี ส.ส. ปี 2562 ของพรรคอนาคตใหม่ที่ไม่กลับมาลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เขต ในนามพรรคก้าวไกล จำนวน 23 คน ซึ่งพบว่าย้ายไปพรรคอื่น 18 คน แยกเป็น ภูมิใจไทยมากที่สุด 11 คน (รวมการย้ายหลังมีการยุบพรรคอนาคตใหม่) รวมไทยสร้างชาติ 4 คน ชาติไทยพัฒนา พลังประชารัฐและเพื่อไทย พรรคละ 1 คน มี 1 คน ที่ย้ายลงไปสมัครแบบบัญชีรายชื่อ นั่นก็คือณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ และอีก 4 คนไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง 

    ในขณะเดียวกันเมื่อพิจารณา ส.ส. พรรคอนาคตใหม่เดิมจากปี 2562 จำนวน 8 คน ที่กลับมาลงสมัครรับเลือกตั้งอีกครั้งในนามพรรคก้าวไกลในปี 2566 เปรียบเทียบกับจำนวน ส.ส. เดิมในปี 2562 รายภูมิภาค ก็จะพบว่าภาคตะวันออกมีสัดส่วนที่ ส.ส. เดิมจากปี 2562 กลับมาลงสมัครในปี 2566 มากที่สุด จำนวน 4 คน จากที่เคยมี ส.ส. ในภาคตะวันออก 9 คน รองลงมาคือภาคกลาง จำนวน 4 คน จาก ส.ส. เดิม 16 คน ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ ซึ่งเป็นภาคที่พรรคอนาคตใหม่เคยได้ ส.ส. 1 และ 5 คน ตามลำดับ ปรากฏว่าไม่มี ส.ส. เดิม จากพรรคอนาคตใหม่ในปี 2562 กลับมาลงในนามพรรคก้าวไกลในการเลือกตั้ง ปี 2566 เลย

    จากนั้นเมื่อพิจารณาอดีตผู้สมัคร ส.ส. ปี 2562 ที่ไม่ได้รับเลือกตั้งของพรรคอนาคตใหม่ จำนวน 320 คน จะพบว่า มีคนกลับมาลงสมัคร ส.ส. ในนามพรรคก้าวไกลในการเลือกตั้งปี 2566 นี้ จำนวน 53 คน โดยภาคเหนือคิดเป็นสัดส่วนมากที่สุด 32.14% น้อยที่สุดคือภาคตะวันออก คิดเป็น 5.88% 

    ในจำนวนอดีตผู้สมัคร ส.ส. ที่ไม่ได้รับการเลือกตั้งในปี 2562 ของพรรคอนาคตใหม่ 320 คน มี 267 คน ที่ไม่ได้กลับมาลงสมัคร ส.ส. แบบแบ่งเขต ในนามพรรคก้าวไกลอีกในการเลือกตั้งปี 2566 นี้ โดยสามารถแยกเป็น ย้ายไปลงพรรคอื่นๆ 61 คน คือ ลงสมัครในนามพรรคไทยสร้างไทย 22 คน พรรคเพื่อไทย 8 คน พรรครวมไทยสร้างชาติ 6 คน ภูมิใจไทย เสรีรวมไทย พรรคละ 5 คน ชาติพัฒนากล้า พลังประชารัฐ พรรคละ 3 คน ประชากรไทย เพื่อชาติ พรรคละ 2 คน และคลองไทย ไทยศรีวิไลย์ ประชาธิปัตย์ พลังปวงชนไทย และเส้นด้าย พรรคละ 1 คน และลงสมัครในแบบบัญชีรายชื่อ 5 คน และอีก 201 คน ไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งนี้

    นอกจากนี้ยังพบว่าในผู้สมัคร ส.ส. พรรคเดิม ยังมี อดีต ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่/ก้าวไกล มาลงสมัครในแบบแบ่งเขต 1 คน ซึ่งก็คือธีรัจชัย พันธุมาศ และอดีตผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่/ก้าวไกล 4 คน ที่ย้ายมาลงสมัครในแบบแบ่งเขตในการเลือกตั้งครั้งนี้

    ผู้สมัคร ส.ส. ที่มาจากการย้ายพรรค

    เมื่อพิจารณาผู้สมัคร ส.ส. แบบแบ่งเขต 396 คนจากพรรค เปรียบเทียบกับฐานข้อมูลของ Rocket Media Lab พบว่ามีผู้สมัคร ส.ส. แบบแบ่งเขตที่มาจากการย้ายมาจากพรรคอื่น 27 คน ซึ่งสามารถแบ่งได้ดังนี้

    1. อดีตผู้สมัคร ส.ส. เดิมจากปี 2562 ที่ย้ายมาจากพรรคอื่น จำนวน 26 คน คิดเป็น 96.3%

    2. อดีตผู้สมัคร ส.ส. ก่อนปี 2562 ที่ย้ายมาจากพรรคอื่น จำนวน 1 คน คิดเป็น 3.7%

    จากข้อมูลจะพบว่า ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. แบบแบ่งเขต 27 คน ของพรรคก้าวไกลในการเลือกตั้ง 2566 ย้ายมาจาก

    1. พรรคเสรีรวมไทย จำนวน 6 คน คิดเป็น 22.22%

    2. พรรคเพื่อชาติ จำนวน 4 คน คิดเป็น 14.81%

    3. พรรคไทยรักษาชาติ จำนวน 3 คน คิดเป็น 11.11%

    4. พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคปวงชนชาวไทย พรรคละ 2 คน คิดเป็น 7.41%

    5. พรรคไทยศรีวิไลย์ ประชากรไทย พลังชาติไทย พลังท้องถิ่นไทย พลังประชาธิปไตย เพื่อคนไทย เพื่อไทย ภูมิใจไทย มัชฌิมาธิปไตย เสมอภาค พรรคละ 1 คน คิดเป็น 3.7% 

    จากข้อมูลจะเห็นได้ว่า ไม่มี ส.ส. เดิมจากปี 2562 จากพรรคอื่นย้ายมาลงสมัคร ส.ส. ในนามพรรคก้าวไกลในการเลือกตั้งครั้งนี้เลย และผู้สมัคร ส.ส. พรรคก้าวไกลที่ย้ายมาจากพรรคอื่นนั้น มาจากอดีตผู้สมัคร ส.ส. ในปี 2562 ของพรรคเสรีรวมไทยมากที่สุด โดยเสรีรวมไทยเป็น 1 ในพรรคร่วมฝ่ายค้านกับก้าวไกล 

    ส่วนผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคก้าวไกลที่เป็นอดีตผู้สมัคร ส.ส. ก่อนปี 2562 ที่มีจำนวน 1 คนนั้น ซึ่งก็คือสุพิศ คิดรอบ จากพรรคมัชฌิมาธิปไตย ซึ่งเป็นอดีตผู้สมัคร ส.ส. ปี 2550 จังหวัดบุรีรัมย์ 

    ผู้สมัคร ส.ส. หน้าใหม่ 

    เมื่อพิจารณาว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. แบบแบ่งเขต 396 คนจากพรรคก้าวไกลเปรียบเทียบกับฐานข้อมูลของ Rocket Media Lab พบว่า ผู้สมัคร ส.ส. แบบแบ่งเขตที่ถือเป็นผู้สมัครหน้าใหม่ของพรรคก้าวไกล 303 คน สามารถแบ่งออกได้ดังนี้*

    1. ประกอบอาชีพส่วนตัว 117 คน คิดเป็น 38.61%

    2. นักธุรกิจ 87 คน คิดเป็น 28.71%

    3. ผู้ที่ทำงานการเมืองด้านอื่นๆ 84 คน คิดเป็น 27.72%

    4. นักการเมืองระดับท้องถิ่น 70 คน คิดเป็น 23.10 %

    5. นักเคลื่อนไหวทางการเมือง/สังคม 55 คน คิดเป็น 18.15%

    6. ข้าราชการประจำ/หน่วยงานของรัฐ/รัฐวิสาหกิจ 37 คน คิดเป็น 12.21%

    7. นักวิชาการ/นักวิจัย 21 คน คิดเป็น 6.93%8

    8. เครือญาติการเมืองระดับชาติ 7 คน คิดเป็น 2.31%

    9. เครือญาติการเองระดับท้องถิ่น 4 คน คิดเป็น 1.32%

    10. บุคคลผู้มีชื่อเสียงในสังคม 3 คน คิดเป็น 0.99%

    *ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 1 คน อาจมีได้มากกว่า 1 สถานะ

    จากข้อมูลจะเห็นได้ว่าผู้สมัคร ส.ส. พรรคก้าวไกล ที่เป็นผู้สมัครหน้าใหม่ 303 คน มาจากกลุ่มที่มีอาชีพประกอบอาชีพส่วนตัวมากที่สุด ถึง 117 คน คิดเป็น 38.61% โดยเมื่อดูในรายละเอียดจะพบว่ามีอาชีพ ‘ทนาย’ มากที่สุดถึง 33 คน ซึ่งเมื่อพิจารณาในรายพื้นที่ก็จะพบว่า ผู้สมัครหน้าใหม่ในประเภทนี้มีจำนวนมากเป็นอันดับหนึ่งในภาคตะวันตก และภาคใต้อีกด้วย

    รองลงมาก็คือ นักธุรกิจ 87 คน คิดเป็น 28.71% อันดับสามคือ ผู้ที่ทำงานการเมืองด้านอื่นๆ 84 คน คิดเป็น 27.72% ซึ่งเมื่อดูในรายละเอียดจะพบว่าส่วนใหญ่คือผู้ที่เคยทำงานเป็นผู้ช่วย ส.ส. มากที่สุด รองลงมาคือทำงานในฐานะกรรมาธิการในสภา ซึ่งเมื่อพิจารณาในรายพื้นที่ก็จะพบว่า ผู้สมัครหน้าใหม่ในประเภทนี้มีจำนวนมากเป็นอันดับหนึ่งในภาคกลาง และภาคตะวันออกอีกด้วย

    อันดับสี่เป็นนักการเมืองระดับท้องถิ่น 70 คน คิดเป็น 23.10 % ซึ่งก็คืออดีตคนที่ทำงานใน อบจ. อบต. ในตำแหน่งต่างๆ รวมไปถึงอดีตผู้สมัคร นายก อบจ. อบต. และ ส.อบจ. ส.อบต. อีกด้วย ซึ่งเมื่อพิจารณาในรายพื้นที่ก็จะพบว่า ผู้สมัครหน้าใหม่ในประเภทนี้มีจำนวนมากเป็นอันดับหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

    และอันดับห้า คือ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง/สังคม 55 คน คิดเป็น 18.15% ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือ ส่วนมากเป็นนักกิจกรรมทางการเมืองและกลุ่มเส้นด้าย ซึ่งเมื่อพิจารณาในรายพื้นที่ก็จะพบว่า ผู้สมัครหน้าใหม่ในประเภทนี้มีจำนวนมากเป็นอันดับหนึ่งในภาคเหนือ 

    ผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ 92 คน

    เมื่อพิจารณาว่า ว่าที่ที่ผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ 92 คนจากพรรคก้าวไกล เปรียบเทียบกับฐานข้อมูลของ Rocket Media Lab พบว่า มาจากผู้สมัครหน้าใหม่มากที่สุด 57 คน โดยส่วนใหญ่เป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมือง/สังคม และผู้ที่ประกอบอาชีพส่วนตัว ซึ่งเมื่อพิจารณาในรายละเอียดก็จะพบว่า นักเคลื่อนไหวทางการเมือง/สังคม เช่น เซีย จำปาทอง บัญชีรายชื่ออันดับที่ 4 ซึ่งเป็นนักเคลื่อนไหวสิทธิแรงงาน หรือผู้ที่ประกอบอาชีพส่วนตัวนั้นมีอาชีพเป็นทนายมากที่สุด จำนวน 4 คน อันดับสามคือนักธุรกิจ อันดับสี่คือ ผู้ที่เคยทำงานการเมืองด้านอื่นๆ ซึ่งส่วนมากเป็นผู้ที่เคยทำงานให้กับคณะก้าวหน้าหรือพรรคก้าวไกลมาก่อน และอันดับห้าคือข้าราชการประจำ/หน่วยงานของรัฐ/รัฐวิสาหกิจ

    รองลงมาก็คือพรรคเดิม 33 คน ซึ่งเป็นอดีต ส.ส. ปี 2562 จำนวน 26 คน และอดีตผู้สมัคร ส.ส. ปี 2562 จำนวน 7 คน สุดท้ายคือย้ายพรรค จำนวน 2 คน ซึ่งมาจากพรรคประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อชาติ พรรคละ 1 คน 

    ดูข้อมูลพื้นฐานได้ที่ https://rocketmedialab.co/database-election-66-3/ 

    หมายเหตุ

    ข้อมูลผู้สมัคร ส.ส. เป็นข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการ

    ข้อมูลผู้สมัครและประวัติ สืบค้นจากการประกาศของพรรค การนำเสนอของสื่อและโซเชียลมีเดียของผู้สมัครแต่ละเขต

    การนับ ส.ส. ปี 2562 นับจากการเลือกตั้งทั่วไปวันที่ 24 มีนาคม 2562

    ปีที่ลงสมัคร ส.ส. ไม่นับปี 2557 ที่การเลือกตั้งเป็นโมฆะ

    ดูฐานข้อมูลว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ปี 2566 แบบแบ่งเขต รายจังหวัด (อย่างไม่เป็นทางการ) พร้อมประวัติทางการเมืองว่า เป็นผู้สมัครจากพรรคเดิม ย้ายมาจากพรรคไหน หรือเป็นผู้สมัครหน้าใหม่ที่ไม่เคยลง ส.ส. มาก่อน ภายใต้ชื่อโครงการ DEMO Thailand ได้ที่ https://demothailand.rocketmedialab.co  

    Related

    “ชาติพันธุ์ก็คือคน” ความฝันกะเบอะดิน

    เรื่อง: นลินี ค้ากำยาน ภาพ: ธันยชนก อินทะรังษี “เราเชื่อว่าถ้าชุมชนเข้มแข็ง มีความฝันร่วมกันและยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่เอาเหมือง เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้อยู่แล้วเพราะเขาไม่ใช่เจ้าของพื้นที่ เราโดนพูดอยู่เสมอว่าเราสู้เขาไม่ได้หรอก เขาเป็นคนใหญ่คนโต...

    ชุมชนริมทางรถไฟบุญร่มไทร กระจกสะท้อนความเลื่อมล้ำผ่านความเป็นเมือง

    เรื่องและภาพ: ธันยชนก อินทะรังษี ท่ามกลางตึกสูงตั้งตะหง่าน และความวุ่นวายในเมืองหลวง  การขยายตัวของเมืองและการพัฒนาเมือง ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจมากมาย แต่นั่นก็ตามมาซึ่งปัญหาทางด้านสังคมเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะความเลื่อมล้ำทางรายได้ ความเป็นอยู่...

    อยู่-ระหว่าง-เหนือ-ล่าง: ทำไมผมต้องข้ามจังหวัด​เพื่อไปดูหนัง และจะเป็นไปได้ไหมที่ผมจะได้เห็นโรงหนังอิสระทั่วไทย

    เรื่อง: ปองภพ ดั่นสมานฉันท์ชัย รถยนต์​ก็​ยัง​ไม่มี​ รถเมล์ก็​มา​ไม่ถึง​ เป็นเนื้อเพลงท่อนหนึ่งจากเพลงสาวดอย 4x4 ที่ขับร้องโดยคาราบาว เล่าถึงความยากลำบากของชีวิตที่อยู่ห่างไกลความเจริญ ผ่านการไม่มีรถส่วนตัวและไม่มีขนส่งสาธารณะ​ที่เข้าถึงได้ง่าย...