พฤษภาคม 6, 2024

    ‘Alfredo’ อนาคิสต์อิตาลี อดอาหารประท้วง “ฉันพร้อมตายเพื่อต้านกฎหมาย 41”

    Share

    “ฉันพร้อมตายเพื่อให้โลกรู้ว่ากฎหมาย 41 คืออะไร” 

    ถ้อยคำแถลงในจดหมายของ ‘Alfredo Cospito’ นักอนาธิปไตยชาวอิตาลีวัย 55 ปี ที่ถูกจับกุมในมาตรา 41 ประมวลกฎหมายอาญาของอิตาลี หลังเขาและเพื่อนขับมอเตอร์ไซค์บุกไปยิงขาของ ‘Roberto Adinolfi’ ผู้อำนวยการนิวเคลียร์ของภาครัฐในกรุงเจนัว อิตาลี เมื่อ 7 พฤษภาคม 2012 ต่อมาเขาถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการวางระเบิดโรงเรียนนายร้อยตำรวจที่ Carabinieri ในปี 2006 ทั้งนี้ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดดังกล่าว

     อย่างไรก็ตามเขาถูกศาลตัดสินจำคุกตลอดชีวิต จาก 2 เหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันเขาถูกจำคุกเป็นเวลา 10 ปีแล้ว โดยระหว่างการจำคุกรัฐบาลอิตาลีได้ปฏิเสธคำอุทธรณ์ของเขาทุกครั้ง และปัจจุบัน Alfredo กำลังอดอาหารประท้วงกฎหมายดังกล่าวอยู่ในเรือนจำ ‘41 Bis’ ไม่น้อยกว่า 100 วัน ส่งผลให้น้ำหนักเขาลดกว่า 50 กิโล 

    ล่าสุด 24 มีนาคม 2023 เว็บไซต์ Agenzianova รายงานว่า Alfredo ถูกส่งไปยังห้องขังของโรงพยาบาลซานเปาโลเพื่อดูแลอาการป่วยอย่างใกล้ชิด

    ขณะที่สถานการณ์ด้านนอก กลุ่มผู้นิยมอนาธิปไตยหลายประเทศ อาทิ สเปน, เยอรมัน, กรีซ และอเมริกันใต้ รวมตัวกันประท้วงและก่อจลาจล โดยบางพื้นที่เริ่มมีการยกระดับการประท้วงด้วยการระเบิดรถนักการทูตอิตาลีในประเทศกรีซ รวมถึงโจมตีสถานทูตอิตาลีในหลายประเทศ โดยพวกเขาประกาศสนับสนุนข้อเรียกร้องของ Alfredo นั้นคือการ “ยกเลิกมาตรา 41” 



    กฎหมาย ‘41 Bis’

    ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 41 ถูกนำมาใช้ในอิตาลีในปี 1975 เป็นกฎหมายที่คุมขังผู้กระทำผิดเกี่ยวกับการก่ออาชญากรรม ค้ายาเสพติด ลักพาตัว ไปจนถึงก่อการร้ายหรือตั้งองค์กรล้มล้างการปกครอง โดยมีมาตรการขังเดี่ยวนักโทษเป็นเวลา 22 ชั่วโมงต่อวัน และจำกัดการเยี่ยมเพียง 1 ชั่วโมงต่อเดือน โดยกฎหมายดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อตัดแกนนำมาเฟียออกจากโลกภายนอก ต่อมาในปี 2002 กฎหมายดังกล่าวเป็นข้อบังคับถาวรในประมวลกฎหมายอาญาอิตาลี

    อย่างไรก็ตามในปี 2003 แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลยังแสดงความกังวลต่อกฎหมายดังกล่าวว่าอาจกลายเป็น “การลงโทษที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์” ต่อผู้ต้องขังในบางกรณี รวมถึงในปี 2007 ศาลสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรป (ECHR) เห็นว่าการใช้กฎหมาย 41 ละเมิดมาตรา 2 ของอนุสัญญายุโรปว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ได้แก่ มาตรา 6 สิทธิในการพิจารณาคดีอย่างยุติธรรม และมาตรา 8 สิทธิในการเคารพในชีวิตส่วนตัวและครอบครัว

    ทั้งนี้สำนักข่าว BBC ยังรายงานด้วยว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายหลายคนมองว่ากฎหมาย ‘41 Bis’ คือ “รูปแบบการลงโทษในยุคกลาง” ขณะที่เว็บไซต์ ‘Elsaltodiario’ รายงานอีกว่า นักกฎหมายกว่า 200 คน ลงนามในคำร้องเพื่อประณามการพิจารณาคดีของ Alfredo อีกทั้ง

    ล่าสุดเว็บไซต์ ‘Unionesarda’ รายงานว่า ‘Flavio Rossi Albertini’ ทนายความของเขาได้ประกาศจะยื่นอุทธรณ์ต่อศาลสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรป (The European Court of Human Rights) หลังได้รับจดหมายของ Alfredo ที่เขียนในเรือนจำว่าเขาเต็มใจที่จะตายเพื่อต่อต้านกฎหมาย 41 



    “ฉันพร้อมตายเพื่อให้โลกรู้ว่ากฎหมาย 41 คืออะไร”

    นี่คือจดหมายของ Alfredo ที่เขียนในเรือนจำ ก่อนที่จะถูกย้ายจากเรือนจำ Bancali ใน Sassari ไปยังเรือนจำโอเปร่าในเมืองมิลานประเทศอิตาลี

    “การต่อสู้ของฉันกับประมวลกฎหมายอาญามาตรา 41 คือการต่อสู้ของผู้นิยมอนาธิปไตย ฉันไม่ได้รับคำสั่งจากใครหรือออกคำสั่งใคร ฉันไม่สามารถอยู่ในระบอบการปกครองที่ไร้มนุษยธรรมเช่นกฎหมาย 41 และฉันไม่สามารถอ่านในสิ่งที่ฉันต้องการได้อย่างอิสระ หนังสือ หนังสือพิมพ์ วารสารเกี่ยวกับอนาธิปไตย นิตยสารศิลปะและวิทยาศาสตร์ ตลอดจนวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ ความเป็นไปได้เดียวที่ฉันจะออกไปได้คือ ละทิ้งความเป็นอนาธิปไตยและขายต่อให้กับคนที่จะมาแทนที่ฉัน

    นี่คือระบอบที่ฉันไม่สามารถติดต่อกับมนุษย์ภายนอกได้ ฉันไม่สามารถมองเห็นหรือแตะต้องใบหญ้า หรือกอดคนที่ฉันรักได้ ไม่แม้แต่จะสามารถดูรูปพ่อแม่ของฉัน มันเป็นระบอบที่ถูกฝังทั้งเป็นในหลุมศพแห่งความตาย แต่ฉันจะสู้ให้ถึงที่สุด ไม่ใช่เพราะเป็น “หน้าที่” แต่เพราะนี่ไม่ใช่ชีวิตที่ฉันเลือก

    หากเป้าหมายของรัฐอิตาลีคือการทำให้ฉัน “แยกตัว” ออกจากการกระทำของพวกอนาธิปไตยนอกกำแพงเหล่านี้ ฉันก็จะปฏิเสธข้อเรียกร้องเหล่านี้ในฐานะนักอนาธิปไตยที่ดี ฉันเชื่อว่าทุกคนต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเอง และในฐานะสมาชิกของกระแสต่อต้านองค์กร ฉันไม่ใช่ “องค์กร” ที่รับการติดต่อจากใคร ดังนั้นฉันจึงไม่สามารถ “แยกตัว” ออกจากใครได้ ความสนิทเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ผู้นิยมอนาธิปไตยที่สอดคล้องกันจะไม่ทำตัวห่างเหินจากผู้นิยมอนาธิปไตยคนอื่น ๆ เพราะการฉวยโอกาสหรือผลประโยชน์

    ฉันปกป้องการกระทำของฉันอย่างภาคภูมิมาโดยตลอด (แม้แต่ในศาล นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันมาอยู่ที่นี่) และฉันไม่เคยวิจารณ์การกระทำเหล่านั้นของสหายคนอื่นๆ น้อยครั้งนักเมื่อมีสถานการณ์แบบเดียวกับที่ฉันพบ

    การดูถูกผู้นิยมอนาธิปไตยที่ร้ายแรงที่สุดคือการถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ออกคำสั่งหรือรับคำสั่งจากใคร

    เมื่อฉันอยู่ในระบอบการปกครองที่มีความมั่นคงสูง ฉันก็ถูกเซ็นเซอร์เช่นกัน ฉันทำได้แค่เพียงส่งบทความไปยังหนังสือพิมพ์และนิตยสารของพวกอนาธิปไตย และเหนือสิ่งอื่นใด ฉันมีอิสระที่จะรับหนังสือ นิตยสาร และเขียนหนังสือ และได้อ่านในสิ่งที่ฉันต้องการ ฉันควรได้รับอนุญาตให้มีชีวิตอยู่ต่อด้วยซ้ำ

    วันนี้ฉันพร้อมที่จะตายเพื่อให้โลกเข้าใจว่ากฎหมายมาตรา 41 คืออะไร ผู้คนกว่า 750 คนต้องทนทุกข์ทรมานโดยไม่สามารถประท้วงได้ แถมถูกสื่อประณามอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้ถึงตาฉันแล้ว: คุณใส่ร้ายฉันว่าเป็นผู้ก่อการร้ายกระหายเลือด… แล้วยังให้ร้ายพวกเราอีกเหมือนอสุรกายที่น่ากลัว เมื่อทุกอย่างจบลง ฉันจะถูกยกขึ้นสู่แท่นบูชาแห่งมรณสักขีอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่ ขอบคุณ ฉันไม่อยู่ในอารมณ์ ฉันไม่ปล่อยตัวเองไปกับเกมการเมืองสกปรกของคุณ

    ในความเป็นจริง ปัญหาที่แท้จริงสำหรับรัฐอิตาลีก็คือ สิทธิมนุษยชนทั้งหมดที่ถูกละเมิดโดยระบอบการปกครองของกฎหมาย 41 นี้ ในนามของ “ความมั่นคง” ซึ่งทุกอย่างถูกสังเวย จะถูกเปิดเผย ดี! คุณจะต้องคิดให้รอบคอบก่อนที่จะใส่อนาธิปไตยที่นี่ ฉันไม่รู้ว่าอะไรคือแรงจูงใจที่แท้จริงและแผนการทางการเมืองที่อยู่เบื้องหลัง และเพราะมีคนใช้ฉันเป็น “แอปเปิ้ลอาบยาพิษ” ในระบอบการปกครองนี้ ค่อนข้างยากที่จะไม่คาดเดาว่าปฏิกิริยาของฉันต่อ “สิ่งไม่มีชีวิต” นี้จะเป็นอย่างไร รัฐอิตาลีเป็นตัวแทนที่คู่ควรของความเจ้าเล่ห์ของตะวันตกที่ให้บทเรียนด้าน “ศีลธรรม” แก่ส่วนอื่นๆ ของโลกอย่างต่อเนื่อง กฎหมายมาตรา 41 ได้ให้บทเรียนที่รัฐ “ประชาธิปไตย” นำมาปรับใช้อย่างดี เช่น ตุรกี (เพื่อนชาวเคิร์ดรู้เรื่องนี้ดี) และโปแลนด์

    ฉันเชื่อว่าการตายของฉันจะเป็นอุปสรรคต่อระบอบการปกครองนี้ และผู้คนกว่า 750 คนที่ทนทุกข์กับมันมานานหลายทศวรรษ จะสามารถใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่าไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม ฉันรักชีวิต ฉันเป็นคนที่มีความสุข ฉันจะไม่แลกชีวิตของฉันเพื่อชีวิตของใคร และเป็นเพราะฉันรักมัน ฉันจึงไม่สามารถยอมรับสิ่งไม่มีชีวิตที่สิ้นหวังนี้ได้

    ขอบคุณสหายที่มอบความรักให้แก่กัน

    สำหรับอนาธิปไตยผู้ไม่ยอมจำนน

    อัลเฟรโด คอสปิโต

    อ่านจดหมายฉบับภาษาอังกฤษได้ที่นี่: https://theanarchistlibrary.org/library/alfredo-cospito-i-am-ready-to-die?fbclid=IwAR30Y9rDO-tIMuUALST7RvUmVSpCeXw5Rk5UG8zgr7ALYYbgbSXQJo9MIqo&mibextid=Zxz2cZ


    รวบรวมข้อมูลจาก: https://www.bbc.com/news/world-europe-64467764?fbclid=IwAR0w8LRZitscYA2ugYubW49BcmjI-5crjC39cm28ZGGVvPCmTvj2VIS9bhI
    https://www.blitzquotidiano.it/cronaca-italia/attentato-adinolfi-cassazione-conferma-condanne-ad-alfredo-cospito-e-nicola-gai-2173970/
    https://en.m.wikipedia.org/wiki/Alfredo_Cospito
    https://apnews.com/article/greece-athens-arson-italy-government-9f4512cb4d9f6b12366a581f1cbba380

    Related

    Lanner Joy : จากใจผู้สร้างสเปซศิลปะ SOME SPACE ที่อยากเห็นเด็กศิลป์รุ่นใหม่ทำงานที่รักได้โดยไม่ต้องย้ายไปเมืองอื่น

    เรื่องและภาพ: ศุภกานต์ วรินทร์ปราโมทย์ เป็นเวลานานแล้วที่ไม่ได้มาเยือนชุมชนควรค่าม้า ฐานทัพของ Addict Art Studio สตูดิโอที่ทำให้เทศกาลศิลปะชุมชนในเชียงใหม่กลายเป็นหมุดหมายประจำปีของใครหลายคน วันนี้เราได้กลับมาอีกครั้งเพื่อพบกับเพื่อนอีกคนหนึ่ง...

    นัดแสดงออกหน้าสถานกงศุลสหรัฐฯ เชียงใหม่ ร้องหยุดสนับสนุนสงครามในปาเลสไตน์

    4 พฤษภาคม 2567 เวลา 09.00 น. เกิดการแสดงออกเรียกร้องเพื่อให้สหรัฐฯ ยุติการสนับสนุนการอิสราเอลทำสงครามในปาเลสไตน์ ณ...

    และนี่คือเสียงของ We are the 99% ฟังเสียง 6 แรงงานที่อยากเห็นคุณภาพชีวิตที่ดี

    เรื่อง: วิชชากร นวลฝั้น ภาพ: ปรัชญา ไชยแก้ว 1 พฤษภาคม ของทุกปีคือวันแรงงานสากล (International Workers’...