ระบบขนส่งอันแสนห่วย ทิ้งคนต่างจังหวัดไว้ข้างหลัง

Date:

เรื่อง: รัตนาภรณ์ น้อยวงศ์/ The Isaan Record

หากใครมีประสบการณ์ต้องยืนเบียดเสียดบนรถสาธารณะเป็นเวลานานขณะเดินทางข้ามจังหวัด จะเข้าใจหัวอก อัยรินทร์ มะลิวรรณ์ นิสิตปี 1 มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ที่ต้องเสียเวลาเดินทางจาก จ.มหาสารคามเพื่อกลับบ้านเกิด จ.สระแก้ว กว่า 12 ชั่วโมง ทั้งที่มีระยะทางเพียง 360 กิโลเมตรเท่านั้น 

การเดินทางครั้งนี้ไม่เพียงแต่ใช้เวลานานเท่านั้น แต่ระบบการขนส่งสาธารณะที่ห่วยแตกในพื้นที่ห่างไกลยังทำให้เธอไม่อยากเดินทางไปไหนด้วยซ้ำ

“เวลาเจอคนแออัด บางครั้งก็อยากลงจากรถ แต่ตั๋วรถก็ซื้อไปแล้ว สุดท้ายก็ต้องจำใจทนต่อเพื่อให้ถึงบ้านให้เร็วที่สุด” เธอพรั่งพรูสิ่งที่อัดอั้นตันใจออกมา พร้อมความเหนื่อยล้าในการเดินทางจากจังหวัดมหาสารคามกลับบ้านเกิดที่จังหวัดสระแก้วด้วยระบบการรถโดยสารสาธารณะอันแสนห่วย 

อัยรินทร์ มะลิวรรณ์ นิสิตปี 1 มหาวิทยาลัยมหาสารคาม 

การเดินทางกลับบ้านเกิดที่ยากลำบาก

ระหว่างเดินทางบนรถบัสคันนั้น เธอเห็นเพื่อนร่วมทางบ่นอุบถึงพฤติกรรมของคนขับรถบัสที่จอดรถรับผู้คนจนล้น ส่วนกระเป๋ารถบัสหรือคนเก็บตั๋วก็ทำหน้าที่เสริมกัน ด้วยการแจ้งให้ผู้โดยสารขยับเข้าไปด้านในสุดเพื่อจะรับผู้โดยสารให้ได้จนแทบจะไม่มีที่ยืน ทั้งๆ ที่เป็นช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19

ระยะทางกว่า 100 กิโลเมตรจากมหาสารคามถึงบุรีรัมย์ต้องใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง จากความเมื่อยล้าผู้โดยสารบางคนจึงนั่งบนทางเดิน บริเวณทางขึ้นลงรถโดยสาร 

“รถคันที่ขึ้นไป เขายัดคนเข้าไปอย่างเดียว คนจะเต็มแค่ไหนก็ยัดเข้า ทางผ่านที่มีคนรอตามจุดต่างๆ เขาก็จอดรับ แค่คนที่อยู่ในรถก็เยอะแล้ว พอรับคนมาเรื่อยๆ จนล้นทุกคนที่เกินที่นั่งมาก็ต้องยืนสลับฟันปลา จนขยับไม่ได้

“การกลับบ้านเกิดแต่ละครั้ง เราต้องเดินทางจาก บขส.มหาสารคาม แล้วลงรถที่ บขส.บุรีรัมย์ เพื่อซื้อตั๋วรถทัวร์ต่อรถจาก บขส.จังหวัดบุรีรัมย์ไปสระแก้ว ถือเป็นการเดินทางที่ยาวนานมาก และขึ้นรถหลายต่อ จนรู้สึกอยากนั่งรถต่อเดียวให้ถึงบ้านเลย”

ผู้โดยสารต้องนั่งบนทางเดินบนรถบัส หลังจากพบว่า ไม่มีที่ยืน 

การบริการสาธารณะที่ไม่ทั่วถึงก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่เกิดขึ้น จึงทำให้การเดินทางกลับบ้านแต่ละครั้ง อัยรินทร์ ต้องเสียเวลาไปเกือบทั้งวัน

“นอกจากปัญหาความแออัดจากการจัดการระบบขนส่งที่ไม่ดีแล้ว ประเทศไทยเรายังคงมีปัญหาในเรื่องของการขนส่งที่ไม่ทั่วถึง ซึ่งเป็นอีกปัญหาหนึ่งที่ตีคู่กันมากับปัญหานี้อยู่เสมอ” 

อัยรินทร์ ได้แต่หวังว่าในอนาคตจะมีการจัดการระบบขนส่งที่เหมาะสม เพื่อไม่ก่อให้เกิดปัญหานี้ซ้ำๆ และถูกทำให้เป็นเรื่องปกติอีก เฉกเช่นที่เป็นอยู่

รถสองแถวที่รับน้ำหนักมากกว่าสองแถว

หลังจากที่ต้องเผชิญกับความแออัดขณะตอนเดินทางกลับบ้านเกิดแล้ว ขากลับจากจังหวัดสระแก้ว อัยรินทร์ยังต้องเจอกับความแออัดบนรถสองแถวขณะเดินกลับหอพักอีกครั้ง

“รถสองแถวเราก็เจอนะ ขึ้นรถสองแถวกลับหอพักที่มหาสารคามนี่แหละ เราต้องยืน คนในรถก็ยืนกันแน่น ยืนจนหน้าลอย ต้องแหงนหน้า เพราะยืนประชิดกันเกินไป” เธอเล่าพลางหัวเราะ แม้ฟังดูเหมือนเป็นเรื่องตลก แต่เธอกลับรู้สึกว่า มันคือตลกร้าย 

ปัญหาความแออัดที่เกิดขึ้น ทั้งขณะเดินทางไปและกลับเพียง 360 กิโลเมตร ถ้าใช้รถส่วนตัวจะใช้เวลาเพียง 5 ชั่วโมง 13 นาที แต่เธอใช้ต้องเวลาไปกว่า 12 ชั่วโมงและใช้พลังมหาศาลในการเดินทาง 

อีกด้านของปัญหาความแออัด

ความแออัดที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่พนักงานของบริษัทขนส่งแห่งหนึ่งในจังหวัดมหาสารคามรับรู้ปัญหาอย่างต่อเนื่อง 

สมชาย (ขอสงวนนามสกุล) คนขับรถบัสวัย 45 ปี แสดงความเห็นว่า ความแออัดมักเกิดช่วงเทศกาล แต่บริษัทฯ ไม่เคยชี้แจงผ่านสื่อว่า จะแก้ไขปัญหาอย่างไรและมีมาตรการในการรับมืออย่างไรบ้าง 

“เราจอดรับตามจุดนัดรับต่างๆ ตามสถานี ถ้าเป็นรถสายยาวจะมีการจอดรับเรื่อยๆ ตามสถานีต่างๆ ซึ่งจะมีจุดรับส่งตามที่บริษัทกำหนด” สมชายกล่าว พร้อมกับชี้ให้ดูตัวอย่างของรถสายยาว ซึ่งเป็นรถที่วิ่งระยะไกลที่กล่าวถึง

เขาเล่าอีกว่า ช่วงวันหยุดเทศกาลมีหลายครั้งที่คนรอกลับบ้านเป็นจำนวนมาก แต่รถมีไม่เพียงพอ คนขับก็เห็นใจและสงสารจึงตัดสินใจรับผู้โดยสารเพื่อให้ทุกคนได้กลับบ้าน 

“บางคนที่ไม่มีรถกลับเขาต้องนอนรออยู่ บขส.เลย พวกเขาคงหวังว่า จะมีคันที่พอเหลือที่นั่งให้กลับบ้านได้ จะดึกจะค่ำแค่ไหนก็หวังว่าจะมีที่ยืน”

เขากล่าวขณะมองดูผู้โดยสารบางคนที่ผล็อยหลับขณะกำลังรอรถ ซึ่งขณะนั้นเป็นช่วงเวลาเพียงบ่ายสอง

ผู้โดยสารนอนรอรถสาธารณะที่ บขส.

การจัดการของผู้ประกอบการ

แม้จะทราบดีว่า การรับผู้โดยสารที่หนาแน่นเกินไปมีข้อเสีย แต่ด้วยน้ำใจของคนไทยด้วยกันก็ทำให้เขาไม่สามารถปฏิเสธผู้โดยสารได้  

“บริษัทฯ ได้รับแจ้งจากผู้โดยสารกรณีพนักงานขับรถรับคนเกินจำนวนที่นั่งจนเกิดปัญหาการอัดแน่น ต่อมาพนักงานขับรถคนนั้นก็ถูกลงโทษด้วยการปรับตามกฎของบริษัท แต่ไม่ได้เป็นข่าว เป็นการลงโทษภายในบริษัท ตามนโยบายของบริษัทนั้นๆ ซึ่งรายละเอียดผมก็ไม่ทราบ” คนขับรถเล่าเหตุการลงโทษที่เกิดขึ้นระหว่างพนักงานขับรถที่กระทำความผิด 

เขายังกล่าวอีกว่า การแก้ไขปัญหาการรับผู้โดยสารเกินขึ้นอยู่กับบริษัทด้วย บางบริษัทติดกล้องวงจรปิดไว้บนรถเพื่อป้องกันการกระทำไม่บริสุทธิ์ของพนักงาน อีกทั้งยังเป็นการรักษาความปลอดภัยบนขนส่งอย่าง รถตู้ รถทัวร์ เป็นต้น  

สมชาย ยังกล่าวอีกว่า บางกรณีบริษัทขนส่งไม่ติดตั้งกล้องไว้ก็ไม่ทราบปัญหานี้ นอกจากผู้โดยสารแจ้งมาเท่านั้น 

ตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 107 ระบุว่า การขนส่งประจําทางหรือการขนส่งไม่ประจําทางระหว่างจังหวัด ห้ามมิให้ผู้ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถรับบรรทุกผู้โดยสารเกินจํานวน (นั่งผู้โดยสารที่กำหนดไว้ในใบอนุญาต) ในกฎหมายก็มีบทลงโทษว่า หากผ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท

ผู้โดยสารต่างยืนรอสาธารณะที่ บขส.

การแก้ไขปัญหารถสาธารณะถูกถกเถียงกันมาอย่างยาวนาน แต่ไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม ดร.สุเมธ องกิตติกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายการขนส่ง สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) อธิบายถึงปัญหาระบบขนส่งมวลชนสาธารณในข้อ ‘ทิศทางการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนที่ปลอดภัยเป็นธรรมระดับประเทศและภูมิภาค’ เมื่อเดือนมิถุนายน 2565 ว่า ระบบขนส่งสาธารณะควรมีพื้นฐานที่เหมาะสม คือ 1. มีเส้นทางเดินรถและเที่ยววิ่งที่เหมาะสม 2. เข้าถึงได้ง่าย และ 3. ราคาที่เหมาะสม ซึ่งรัฐจะต้องเป็นผู้อุดหนุน 

“TDRI พบว่า สัดส่วนคนกรุงเทพฯ ที่ไม่มีการครอบครองรถส่วนบุคคลอยู่ที่ร้อยละ 30 ขณะที่สัดส่วนของคนขอนแก่นที่ไม่มีรถส่วนบุคคลอยู่ที่ร้อยละ 6 และอีกร้อยละ 94 มีรถส่วนบุคคล อย่างน้อย คือ รถจักรยานยนต์ 1 คัน แสดงว่าในต่างจังหวัดไม่มีทางเลือกสำหรับบริการขนส่งสาธารณะจึงจำเป็นต้องมีรถส่วนบุคคล หากไม่มีก็เดินทางไม่ได้” นักวิชาการ TDRI กล่าว  

ขณะที่ พัชรางศุ์ ประพฤติธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการขนส่งผู้โดยสาร กรมการขนส่งทางบก อธิบายว่า ขณะนี้ได้นำการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามเป้าหมายขององค์กรสหประชาชาติมาปรับใช้เป็นแผนปฏิบัติตั้งแต่ปี 2566 – 2570 เพื่อให้บริการขนส่งสาธารณะครอบคลุม ปลอดภัย และยั่งยืน  

“เราพยายามพัฒนาสถานีขนส่งผู้โดยสารเพื่อรองรับผู้คนด้วยการผลักดันเชิงนโยบายส่งไปที่แต่ละภูมิภาค ให้กำหนดสิ่งอำนวยความสะดวกภายในสถานีขนส่งผู้โดยสาร และขับเคลื่อนระบบขนส่งรถโดยสารสาธารณะอย่างต่อเนื่อง ทั้งในระดับประเทศ กทม.และภูมิภาค อีกทั้งจะพัฒนามาตรฐานการประกอบการขนส่ง และจะพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานด้านการขนส่งมวลชน โดยพัฒนาระบบฐานข้อมูลให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน” พัชรางศุ์ กล่าวในเวทีเสวนา  

อย่างไรก็ตามสำหรับผู้โดยสารที่ต้องการร้องเรียนปัญหาที่เกิดขึ้นจากการบริการขนส่งสาธารณะสามารถทำได้หลายช่องทาง ทาง  Facebook: “1584 ร้องเรียนรถโดยสารสาธารณะ”  LINE: @1584DLT  เว็บไซต์ www.dlt.go.th หรือทางอีเมล e-mail : dlt_1584complain@hotmail.com และโทรศัพท์: 1584 

เมื่อร้องเรียนแล้วกรมการขนส่งทางบกจะสืบข้อเท็จจริงตามที่มีผู้แจ้ง โดยเรียกตัวผู้ถูกร้องเรียนมารายงานตัวและสอบสวนจนได้ข้อยุติ จากนั้นผู้ร้องเรียนจะได้รับเงินส่วนแบ่ง ภายหลังจากที่ผู้กระทำความผิดได้ชำระค่าปรับตามที่เปรียบเทียบปรับแล้ว จะมีข้อความ SMS ส่งให้ผู้แจ้งทราบผลการดำเนินการและจะดำเนินการโอนเงินส่วนแบ่งค่าปรับภายใน 15 วันทำการ

มาตรการลงทะเบียนซิมด้วย Liveness Detection ถูกตั้งคำถาม กระทบคนไร้สัญชาติ–แรงงานข้ามชาติ ‘ตี่ตาง’ ชี้จำกัดสิทธิสื่อสาร แก้ปัญหาไม่ตรงจุด

จากกรณีที่ สำนักงานคณะกรรมการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ เเละกิจการโทรคมนาคมเเห่งชาติ (กสทช.) ประกาศใช้เทคโนโลยี Liveness Detection เมื่อวันที่...

พ่อหมอกฤตไท ร้องหยุดดองร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด ด้านสภาลมหายใจ เเถลงไม่ควรเอื้อนายทุน

หลังจากเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2568 สภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.บริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาดฯ ในวาระสามด้วยคะแนนเห็นด้วย 309 เสียง...

ให้คะแนนรัฐบาลอนุทิน ‘สอบตกยกแผง’ แก้ปัญหาน้ำกก–สายรวก–โขงปนเปื้อนโลหะหนัก จากเหมืองแร่ในรัฐฉาน

สืบสกุล กิจนุกร นักวิชาการด้านการพัฒนาระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ประเมินการทำงานของรัฐบาลไทยในการรับมือปัญหามลพิษข้ามพรมแดนจากเหมืองแร่ในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา ระบุว่า ‘สอบตกยกแผง’ พร้อมแจกแจงการประเมินเป็นรายบุคคลต่อผู้นำฝ่ายบริหารสามตำแหน่ง นายกฯ...

Lanner Joy: LOLA Gallery DRIP แรงบันดาลใจจากความฝันเล็กๆ สู่รากกาแฟห้วยตองก๊อที่เติบโตอย่างแข็งแรง

เรื่องและภาพ: สุทธิกานต์ วงศ์ไชย ยามบ่ายต้นเดือนพฤศจิกายนที่ลานกว้างของโครงการจริงใจมาร์เก็ต เชียงใหม่ เสียงแจ๊สลอยแผ่วเบาเคล้ากลิ่นกาแฟที่เพิ่งบดใหม่ เทศกาล Jazz Arabica กลับมาอีกครั้งในปี...