ประวัติศาสตร์

ภูมินามพื้นบ้าน: ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นกับวรรณกรรมพื้นบ้านล้านนา “The Indigenous Place name in Local History and Folk Literature in Lanna Dialects”

“ภูมินามพื้นบ้าน” เป็นระบบความคิดทางวัฒนธรรมของชาวบ้านทั่วไปที่สัมพันธ์และมีความหมายอย่างแนบแน่นกับการตั้งถิ่นฐานที่อยู่อาศัยอันมีความเกี่ยวข้องอยู่กับความคิดด้านภูมิศาสตร์กายภาพ ประวัติศาสตร์และวรรณกรรมท้องถิ่น ตลอดจนสะท้อนถึงระบบอำนาจ อัตลักษณ์ และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของชุมชนในท้องถิ่นอย่างสมบูรณ์ ประวัติศาสตร์ของท้องถิ่นจึงเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการต่อสู้เพื่อช่วงชิงความหมายและพื้นที่ทางสังคมของผู้คนในท้องถิ่นกับอิทธิพลที่ถูกครอบงำจากอำนาจรัฐส่วนกลางซึ่งดำเนินการผ่านผ่านกลไกด้านการปกครอง ศาสนา สื่อและการศึกษาแบบสมัยใหม่ สิ่งเหล่านี้ได้ทำหน้าที่เป็นเครื่องมือสำหรับลดทอนศักดิ์ศรี คุณค่า และความหมายทางสังคมของผู้คนในท้องถิ่นให้อ่อนด้อยลงไป จนกระทั่งชื่อหรือภูมินามของหมู่บ้านหลายแห่ง เกิดความผิดเพี้ยนจากความหมายดั้งเดิมไปอย่างมาก จนในที่สุดอาจทำให้ท้องถิ่นไม่มีที่ยืนทางประวัติศาสตร์ และไม่สามารถอธิบายความเป็นมาของตนเองให้คนรุ่นหลังรับทราบในเรื่องที่ถูกต้องและเป็นจริงได้ ชุมชนในเขตพื้นที่ภาคเหนือตอนบนตั้งชื่อหมู่บ้านตามบริบทต่าง ๆ เช่น ตามสภาพทางภูมิศาสตร์ เช่น บ้านเด่น บ้านดอน บ้านสันป่าสัก บ้านห้วยเกี๋ยง...

ร้อยเรียงเรื่องเชียงแสน:  บทสนทนาต่อ “ปฏิบัติการด้านศิลปะ” และ “ประวัติศาสตร์” ยวนย้ายถิ่น

มองศิลปะจัดวางและอ่านอย่างเข้าใจ “ไทยวนปิ๊กบ้าน: การสืบทอดและส่งต่อ” มหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale Chiang Rai 2023 เป็นกิจกรรมเพิ่มพูนความร่วมมือจากเหล่าบรรดาเครือข่ายศิลปินและนักปฏิบัติการด้านศิลปะตั้งแต่ระดับท้องถิ่นเรื่อยไปจนถึงระดับนานาชาติที่มุ่งสร้างการตระหนักรู้ต่อประเด็นศิลปะวัฒนธรรมในสังคมร่วมสมัยที่นำไปสู่การขยายความรับรู้ให้กระจายไปสู่สาธารณชน มหกรรมด้านศิลปะนานาชาติที่ว่านี้จึงได้ทำหน้าที่เสริมสร้างคุณค่าและมูลค่าเพิ่มต่อศิลปะและวัฒนธรรมของจังหวัดเชียงรายอันนับว่าเป็นการประกาศให้สังคมทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติทราบว่า “เชียงรายเป็นเมืองแห่งศิลปะ” (The City of Arts) งานดังกล่าวเกิดขึ้นภายใต้การสนับสนุนและส่งเสริมจากสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม โดยมีการจัดงานขึ้นในรอบ 2 ปี 1 ครั้ง ซึ่งมีการใช้คำศัพท์ภาษาอิตาลีว่า 'Biennale' หรือ...

รถไฟรางคู่ผ่าน ‘แพร่’ เจอวัดร้างและสังคมก่อนมีเครื่องเสียง ‘ฆ้อง’ มีไว้ทำอะไร

ปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมาบริเวณหมู่ที่ 3 ตำบลทุ่งกวาว อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ ขณะที่คนงานกำลังขับรถแทรกเตอร์ไถปรับผืนดิน ก่อนลงเสาตอม่อขนาดใหญ่เพื่อรองรับเส้นทางรถไฟรางคู่จากสถานีเด่นชัย จังหวัดแพร่ไปยังจังหวัดเชียงราย พบอิฐจำนวนมากที่เคยอยู่ใต้ดิน ชิ้นส่วนโบราณวัตถุทั้งอิฐมีจารึกตัวอักษรโบราณ พระพิมพ์ เศษภาชนะดินเผา เศษเครื่องเคลือบเซรามิก และฆ้องสำริด คาดเคยเป็นวัดโบราณที่มีชื่ออยู่ในบัญชีของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ชื่อว่า ‘วัดป่าสูง’ ในหน้าเพจ Facebook ของสมาคมรักษ์เมืองเก่าแพร่ : APT เมื่อวันที่ 22 เมษายน...

ยก ‘ครูบาเจ้าศรีวิชัย’ เป็นบุคคลสำคัญล้านนา ดันวันเกิดหรือวันมรณภาพเป็น “วันศรีวิชัย”

วันที่ 29 เมษายน 2567 วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร ร่วมกับ มูลนิธิครูบาศรีวิชัย จัดกิจกรรมงานวันครูบาเจ้าศรีวิชัย เปิดถนนขึ้นสู่วัดพระธาตุดอยสุเทพ ครบ ๘๙ ปี และมหกรรมชุมนุมรถโบราณล้านนา ณ มณฑลพิธีมูลนิธิสถาบันครูบาเจ้าศรีวิชัย, อนุสาวรีย์ครูบาเจ้าศรีวิชัย และวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร ระหว่างวันที่ 28-30 เมษายน 2567 ซึ่งกิจกรรมในวัน 29 เมษายน...

แด่ “จรัลล้านนา” ว่าด้วยการประกอบสร้างและผลิตซ้ำอัตลักษณ์ความเป็นล้านนาของศิลปินอย่าง จรัล มโนเพ็ชร

บทความนี้ไม่ได้จัดวางบทบาทและสถานะของ “จรัล มโนเพ็ชร” ว่าเป็นผู้สร้างอัตลักษณ์ความเป็นล้านนาที่ดำรงอยู่อย่างแน่นิ่งตายตัวแต่อย่างใด การนำเสนอของบทความนี้ต้องการที่จะสร้างและสานต่อบทสนทนากับบทความที่ถูกเขียนขึ้นก่อนหน้า ซึ่งได้มีความพยายามในการวิเคราะห์และตรวจตราการสร้างอัตลักษณ์ผ่านบทเพลงของจรัล ผ่าน “มโนทัศน์ล้านนาไทยที่อีหลักอีเหลื่อ” โดยที่ผู้เขียนเองก็ไม่ได้วางอยู่บนการมีเจตจำนงที่จะนำเสนอข้อโต้แย้งต่องานเขียนก่อนหน้า หากแต่ปรารถนานำพาผู้อ่านบทความให้ขยับขยายแง่มุมเพื่อมองให้เห็นฉากหลัง   ของเรื่องราวและเรื่องเล่าที่มีต่อศิลปินล้านนาท่านนี้ ซึ่งมีความสัมพันธ์กับบริบทของยุคสมัย ท่ามกลางสภาพเงื่อนไขทางสังคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจการเมืองที่ห้อมล้อมกล่อมเกลาให้เขาได้ สร้างสรรค์ผลงานเพื่อเป็นจิ๊กซอว์ในทางประวัติศาสตร์ดนตรีล้านนาให้เป็นส่วนหนึ่งของ“การประกอบสร้างอัตลักษณ์ความเป็นล้านนา” มิใช่เพียง “การสร้างอัตลักษณ์ความเป็นล้านนา” ในฐานะองค์ประธานทางประวัติศาสตร์ (Historical subjects) ผู้ยิ่งใหญ่อย่างตรงไปตรงมาแบบนั้นเลยเสียทีเดียว ผู้เขียนขอเริ่มต้นชี้ชวนให้ผู้อ่านได้ขบคิดและพิจารณาต่อคำว่า “อัตลักษณ์ความเป็นล้านนา” ในฐานะแนวคิดที่สะท้อนถึงการประกอบสร้างทางวัฒนธรรมที่สามารถอธิบายเชื่อมโยงควบคู่กับการผลิตซ้ำทางวัฒนธรรม นั่นเป็นเพราะว่าวัฒนธรรมล้วนเป็นสิ่งที่ถูกประกอบสร้างขึ้นมา...