เสวนาครบรอบ 90 ปีประชาธิปไตย จากคำประกาศคณะราษฎรอันเลือนลางในอดีต สู่สิทธิและเสรีภาพที่เจือจางในปัจจุบัน​

29/06/2022

-พิษณุโลก- 26 มิถุนายน เวลา 16.30 – 18.00 น. สภานิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร ปีการศึกษา 2565 ร่วมกับพรรคเพื่อนนเรศวร ได้ร่วมจัดกิจกรรมเสวนาครบรอบ 90 ปีประชาธิปไตย ในหัวข้อ “กิจกรรมเสวนาครบรอบ 90 ปี ประชาธิปไตย : จากคำประกาศคณะราษฎรอันเลือนลางในอดีต สู่สิทธิและเสรีภาพที่เจือจางในปัจจุบัน” ณ หน้าห้องสภานิสิต มหาวิทยาลัยนเรศวร โดยได้รับเกียรติจาก ผศ.ดร.อัษฎางค์ พลนอก ดร. ภาคภูมิ ทรัพทย์สุนทร คุณปิยวรรณ ผ่านจังหาร ตัวแทนนิสิตชั้นปีที่ 1 คุณปัญญากร ดีสงบ ตัวแทนนิสิตชั้นปีที่ 3 สังกัดสโมสรนิสิตคณะสังคมศาสตร์ คุณปริศนียาภรณ์ บุญจันทร์ ประธานสภานิสิต มหาวิทยาลัยนเรศวร และ คุณปองภพ ดั่นสมานฉันท์ชัย ตัวแทนจากกลุ่ม NU-MOVEMENT โดยมี คุณณัฏฐวรรธน์ คล้ายสมมุต สมาชิกพรรคเพื่อนนเรศวรและสภานิสิตฝ่ายพิทักษ์สิทธิ์เป็นผู้ดำเนินการเสวนา​

ประเด็นหลักในการพูดคุยในวงเสวนาครั้งนี้เป็นการกล่าวถึงสิทธิเสรีภาพในรั้วมหาวิทยาลัย ซึ่งล้อกับคำประกาศหลัก 6 ประการจากคณะราษฎร อันซึ่งบางประการได้หล่นหายระหว่างทางของประวัติศาสตร์เวลา 90 ปี ถึงกระนั้นแม้จะหลงเหลืออยู่จวบจนปัจจุบันก็ยังไม่มีความชัดเจน จากปรากฎการณ์ดังกล่าวจึงนำมาสู่การตั้งคำถามเกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพที่ดูจะถูกพูดถึงมากที่สุด​

ผู้ร่วมวงเสวนาได้เล่าสิทธิเสรีภาพในมุมมองของตน อาจารย์อัษฎางค์ได้กล่าวว่า เวลาที่เราพูดถึงสิทธิเราต่างนึกถึงสิทธิของตัวเอง รวมถึงสิทธิของคนอื่นๆรอบตัว ดังนั้นนอกจากนึกถึงสิทธิและรักษาสิทธิของตัวเราแล้วยังต้องพึงระลึกถึงสิทธิของผู้อื่นด้วยเช่นกัน คุณปิยวรรณได้กล่าวว่าทุกคนต่างมีสิทธิเท่าเทียมกัน ขณะเดียวกันต้องไม่ละเมิดถึงสิทธิของคนอื่น ทุกการกระทำควรคิดก่อนทำ อาจารย์ภาคภูมิได้กล่าวว่าหากสิ่งมีชีวิตไม่มีสิทธิอะไรเลย ทุกคนจะใช้ชีวิตไม่ต่างจากหุ่นเชิด แต่หากทุกคนได้ทุกสิทธิทำอะไรก็ได้จะไม่ต่างอะไรกับพระเจ้า การนึกถึงสิทธิของเรากับคนอื่นจึงเป็นการทำให้สิ่งนี้สอดคล้องซึ่งกันและกัน ดังนั้นขอบเขตทางอำนาจจึงควรเป็นประชาชนคนส่วนใหญ่เป็นคนกำหนด คุณปริศนียาภรณ์ได้กล่าวว่า สิทธิเสรีภาพหมายถึงการแสดงออกโดยไม่มีกฎหรือข้อบังคับใดๆ เลือกและไม่เลือกทำอะไรบางอย่างได้ คุณปองภพ ดั่นสมานฉันท์ชัย ได้กล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่าสิทธิกับเสรีภาพคือสิ่งที่ควรแยกออกจากกัน สิทธิคือสิ่งที่ติดตัวเรา เป็นสิงหนึ่งที่ต้องคอยยืนยันว่าเรามี ส่วนเสรีภาพเป็นเรื่องกว้างออกไป ประเทศไทยมีปัญหาเรื่องสิทธิที่ไม่ครอบคลุม ในสมัยเรียนทุกคนมักเจอการศึกษาที่บอกให้ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดก่อน ส่วนสิทธิและเสรีภาพมันจะตามมาเอง สิทธิและะเสรีภาพมาทีหลังหน้าที่ของคุณ ดังนั้นสิทธิและเสรีภาพไม่เคยแยกออกจากหน้าที่จึงเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในประเทศไทย กลายเป็นว่าหน้าที่กดทับสิทธิและเสรีภาพของเราตลอดเวลา คุณปัญญากร ดีสงบ ได้กล่าวว่าเห็นด้วยกับการแยกสิทธิกับเสรีภาพแยกออกจากกัน ทุกคนควรมีอะไรคุมครองสิทธิของเรา เสรีภาพจึงเป็นเหมือนพื้นที่ที่หนึ่งที่เราจะสามารถแสดงอออกได้อย่างอิสระเสรี แต่กระนั้นจึงขึ้นอยู่กับรัฐจะนิยามออกมาอย่างไร เช่น ประเทศไทยได้กล่าวว่าประชาชนสามารถชุมนุมในสาธารณะ แต่ต้องไม่กระทบต่อความมั่นคงของรัฐ จึงนำมาสู่การตั้งคำถามว่า สรุปแล้วสิทธิและเสรีภาพมีมาแต่กำเนิดหรือรัฐควบคุมเราให้มี​

นอกจากนี้ได้มีการพูดคุยสิทธิและเสรีภาพในรั้วมหาวิทยาลัย ในห้องเรียน ระหว่างผู้สอนกับผู้เรียน ซึ่งผู้ร่วมวงเสวนามีทั้งนักศึกษาและอาจารย์ ผู้ร่วมฟังจึงได้ฟังทั้งมุมมองของอาจารย์และนักศึกษา คุณณัฏฐวรรธน์ คล้ายสมมุต พิธีกรได้กล่าวถึงความรู้สึกของการจัดเสวนาครั้งนี้ในฐานะผู้คิดริเริ่มจัดทำ เป็นอันจบลงของกิจกรรมเสวนาครบรอบ 90 ปีประชาธิปไตย : จากคำประกาศคณะราษฎรอันเลือนลางในอดีต สู่สิทธิและเสรีภาพที่เจือจางในปัจจุบัน ได้อย่างสมบูรณ์​

เรื่อง: รัตติยา โคตรเนตร และ ณัฏฐวรรธน์ คล้ายสมมุต​
ภาพ: นิสารัตน์ แสงเลื่อม ​

#Lanner

ข่าวที่เกี่ยวข้อง