นักกิจกรรมไทย-เมียนมา จัดกิจกรรมรำลึกครบรอบ 4 ปี รัฐประหารเมียนมา เรียกร้องปฏิเสธการเลือกตั้งที่กำลังจะจัดขึ้น

Date:

1 กุมภาพันธ์ 2568 ภาคีเครือข่ายนักกิจกรรมเมียนมาและไทย จัดกิจกรรม The Art of Defiance: 4 Years of Burning Circle เพื่อแสดงพลังการต่อต้าน และรำลึกวันครบรอบ 4 ปีของการรัฐประหารในประเทศเมียนมา ตั้งแต่เวลา 17.00 – 20.00 น. ณ อนุสาวรีย์ 3 กษัตริย์ จังหวัดเชียงใหม่

ภายในงานมีการจัดนิทรรศการภาพต้นไม้จากหมึกลายนิ้วมือ เพื่อแสดงถึงการรวมพลังถึงอองซานซูจี และต่อต้านรัฐประหารที่เกิดขึ้น

ทั้งนี้ยังมีการประกาศเจตนารมณ์ การแสดงของศิลปินแร็ปเปอร์ การกล่าวเกี่ยวกับชีวิตของ LGBT ที่อยู่ในช่วงของการปฏิวัติ และ Performance Art ที่เป็นการถ่ายทอดเรื่องราวความรุนแรงหลังเกิดเหตุการณ์รัฐประหารในประเทศเมียนมา

นอกจากนี้ยังมีการอ่านแถลงการณ์ร่วมของนักกิจกรรมไทย-เมียนมา มีใจความดังนี้

เมื่อ 4 ปีที่แล้ว กองทัพเมียนมาร์พยายามก่อรัฐประหาร ส่งผลให้ประชาชนต้องประสบความทุกข์ยากแสนสาหัส

ขณะที่เราลำลึกถึงวันครบรอบที่น่าเศร้าโศกนี้ เราขอเน้นยํ้าถึงความมุ่งมุ่นอันแน่วแน่ของเราต่อความยุติธรรม เสรีภาพ และประชาธิปไตยให้กับประชาชนชาวเมียนมาร์

เราขอแสดงความขอบคุณอย่างสุดซึ้งต่อประชาชนชาวไทยและนักเคลื่อนไหวที่สนับสนุนชาวเมียนมาร์มาโดยตลอด ความเห็นอกเห็นใจ ความกรุณา และการต้อนรับอย่างดีของชาวไทยในการเป็นเจ้าภาพต้อนรับผู้ที่หลบหนีการข่มเหงและความรุนแรง ประกอบกับความสามัคคีอย่างไม่ลดละของเพื่อนชาวไทยในการแสวงหาการเปลี่ยนแปลงนั้นมีค่าอย่างยิ่ง มือที่ช่วยเหลือของเพื่อนชาวไทยเตือนเราว่าความเห็นอกเห็นใจและมนุษยธรรมร่วมกันนั้นสามารถข้ามพรหมแดนได้

ในโอกาวนี้ เราขอเรียกร้องให้ประชาชนชาวเมียนมาร์และประชาคมโลกปฏิเสธการเลือกตั้งปลอมที่จัดฉากโดยคณะทหาร การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นเพียงฉากหน้าที่สร้างขึ้นเพื่อให้การปกครองที่ผิดกฎหมายและกดขี่ของพวกเขามีความชอบธรรม การมีส่วนร่วมในกระบวนการดังกล่าวจะยิ่งทำให้ความรุนแรงปละการปราบปรามอย่างต่อเนื่องของระบอบการปกครองยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น

นอกจากนี้ เราเรียกร้องให้รัฐบาลและบริษัทต่างๆ ทั่วโลกดำเนินการทันทีเพื่อหยุดการส่งเชื้อเพลิงเจ็ตให้กับกองทัพเมียนมาร์ เชื้อเพลิงเจ็ตเป็นเชื้อเพลิงที่ทำให้การโจมตีทางอากาศแบบไม่เลือกหน้าต่อพลเรือนรวมถึงเด็ก ส่งผลให้เกิดความเสียหายอย่างกว้างขวาง ตามรายงานของฮิวแมนไรท์วอช กองทัพเมียนมาร์ได้โจมตีทางอากาศมากกว่า 1,000 ครั้งในปีที่แล้วเพียงปีเดียว โดยโจมตีโรงเรียน โรงพยาบาล และพื้นที่อยู่อาศัย การตัดการส่งเชื้อเพลงเหล่านี้ถือเป็นขั้นตอนสำคัญในการบรรเทาความโหดร้ายที่อาจเกิดขึ้นต่อไป

พม่าซึ่งเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจและความกังวลด้านความปลอดภัยและความมั่นคงจากระบอบการปกครองของทหาร ได้เริ่มต้นการเดินทางที่อันตรายด้วยการเกณฑ์ทหารบุคคลต่างๆ ทั่วประเทศ การเกณฑ์ทหารโดยพลการเหล่านี้ยังคงสร้างความเสียหายต่อชีวิตของประชาชนพม่า ส่งผลกระทบต่อผู้ชาย ผู้หญิง และแม้แต่เด็ก และทำให้ชุมชนแตกแยก รายงานล่าสุดของฮิวแมนไรท์วอทช์เผยให้เห็นถึงการละเมิดสิทธิที่น่าตกใจเหล่านี้ รวมถึงการเกณฑ์ทหารเยาวชนและการก่ออาชญากรรมต่อชนกลุ่มน้อยเป็นจำนวนมาก มีผู้คนนับหมื่นคนถูกบังคับใช้แรงงาน ทรมาน และประหารชีวิต

พม่ากำลังเผชิญกับวิกฤตด้านมนุษยธรรมครั้งใหญ่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ผู้คนมากกว่า 3 ล้านคนต้องพลัดถิ่นฐานและใช้ชีวิตในสภาพที่เลวร้ายโดยไม่ได้รับสิ่งจำเป็นพื้นฐาน ครอบครัวแตกแยก และเด็กๆ เติบโตขึ้นมาในสภาพหวาดกลัวและขาดแคลน ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างเร่งด่วนมีความจำเป็นอย่างยิ่งในการตอบสนองความต้องการเร่งด่วนของประชากรกลุ่มเปราะบางเหล่านี้

ข้อเสนอแนะสำคัญ 5 ประการสำหรับประเทศไทยและอาเซียน

1. ต้อนรับ ยอมรับ และให้ความช่วยเหลือที่เหมาะสมแก่ผู้ลี้ภัยจากความขัดแย้งและทางการเมืองจากพม่า โดยเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของพวกเขา ให้แน่ใจว่าบุคคลเหล่านี้ได้รับการคุ้มครองและการสนับสนุนพื้นฐานที่จำเป็นในการสร้างชีวิตใหม่

2. เพิ่มแรงกดดันทางการทูตต่อคณะรัฐประหาร บังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรที่กำหนดเป้าหมาย และให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่จำเป็น

3. ยืนยันถึงสิทธิมนุษยชนและสวัสดิการของผู้ที่ถูกขับไล่จากพม่าได้รับการปกป้อง โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง รวมทั้งสตรีและเด็ก

4. มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันโดยมีส่วนร่วมกับอาเซียนและชุมชนระหว่างประเทศ ส่งเสริมความร่วมมือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อให้บรรลุผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมซึ่งสนับสนุนความยุติธรรมและสันติภาพในพม่า

5. สร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับองค์กรภาคประชาสังคม (CSO) และองค์กรในชุมชน (CBO) โดยทำงานร่วมกับเครือข่ายขององค์กรเหล่านี้เพื่ออำนวยความสะดวกในการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมข้ามพรมแดนและร่วมกันแก้ไขปัญหาเร่งด่วน

ข้อเสนอแนะต่อประชาคมระหว่างประเทศ

1. บังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อผู้นำกองทัพพม่า รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานที่สนับสนุนรัฐบาลทหาร เพื่อให้แน่ใจว่ามาตรการคว่ำบาตรได้รับการประสานงานทั่วโลกเพื่อให้เกิดผลกระทบสูงสุด

2. ให้ความสำคัญกับการจัดหาเงินทุนและการสนับสนุนด้านโลจิสติกส์สำหรับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ทำงานร่วมกับองค์กรและเครือข่ายในพื้นที่เพื่อให้แน่ใจว่าความช่วยเหลือจะไปถึงประชากรที่พลัดถิ่นและกลุ่มเปราะบางได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. เสริมสร้างกลไกระหว่างประเทศในการสืบสวนและดำเนินคดีอาชญากรรมสงคราม อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ และการละเมิดสิทธิมนุษยชนอื่นๆ ที่กระทำโดยระบอบการปกครองทหาร

4. จัดให้มีแพลตฟอร์มสำหรับเหยื่อและผู้รอดชีวิตจากความโหดร้ายของกองทัพเพื่อแบ่งปันเรื่องราวของตนเอง สนับสนุนความต้องการของพวกเขาและรวมพวกเขาไว้ในกระบวนการตัดสินใจที่เกี่ยวข้องกับความยุติธรรมและการปรองดอง

5. ร่วมมือกันทั่วโลกเพื่อหยุดการจัดหาทรัพยากร เช่น อาวุธ เทคโนโลยี และการเงินที่ส่งเสริมอำนาจแก่คณะรัฐประหาร กดดันบริษัทและประเทศต่างๆ ที่ร่วมมือสนับสนุนให้ระบอบการปกครองยุติการทำธุรกรรมทั้งหมด

ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการ
ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

กลุ่มรักษ์เชียงของยื่นฟ้องนายกฯ–กฟผ. ปมเขื่อนปากแบง หวั่นแม่น้ำโขงกลายเป็น ‘อ่างตะกอนพิษ’

12 พฤศจิกายน 2568 กลุ่มรักษ์เชียงของ พร้อมประชาชน นักวิชาการ และทนายความจากมูลนิธิศูนย์ข้อมูลชุมชน ยื่นคำฟ้องต่อศาลปกครองเชียงใหม่ ฟ้องนายกรัฐมนตรี...

ทหารเกณฑ์ดับในค่ายพิษณุโลก มูลนิธิผสานวัฒนธรรมจี้สอบเหตุละเมิดสิทธิ

11 พฤศจิกายน 2568 มูลนิธิผสานวัฒนธรรมเปิดเผยว่า ได้รับแจ้งเหตุจากเครือข่ายกลุ่มชาติพันธุ์ภาคเหนือ กรณี พลทหารเกณฑ์รายหนึ่งเสียชีวิตภายในค่ายทหารแห่งหนึ่งในจังหวัดพิษณุโลก หลังเข้ารับการฝึกเพียงไม่ถึง 10...

เครือข่าย กก สาย รวก โขง ยื่น 5 ข้อ แก้ปัญหาน้ำปนสารพิษ ด้านรัฐบาลยืนยันยุติโครงการฝาย

ภาพ: สมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต 11 พฤศจิกายน 2568 ที่หอประชุมคชสาร องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย กรมทรัพยากรน้ำจัดเวทีประชุมรับฟังความคิดเห็นประชาชน เพื่อทบทวนและกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำในพื้นที่แม่น้ำกกและแม่น้ำสาย  การประชุมครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมกว่า 300...

มติเอกฉันท์ คนท่าตอน ‘ไม่เอาฝายดักตะกอน’ ชี้ต้องการ ‘น้ำสะอาด’ เร่งด่วนกว่า

10 พฤศจิกายน 2568 ที่หอประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลท่าตอน อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ กรมทรัพยากรน้ำจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นประชาชน เพื่อทบทวนแนวทางแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำในลุ่มน้ำกกและแม่น้ำสาย ท่ามกลางความสนใจของประชาชนกว่า...