ป้าแสงเดือน เหยื่อของปฏิบัติการยึดที่ดินทำกินจากนโยบายทวงคืนผืนป่ายุค คสช.

15 กันยายน 2565

“คดีป้าแสงเดือน”: โฉมหน้าการแย่งยึดที่ดินใต้บงการนโยบายทวงคืนผืนป่ายุค คสช. กับการเขม็งเกลียวกฎหมายทรัพยากรโดยรัฐราชการ

เธอเคยเล่าว่า “เขาบอกว่าถ้าไม่ตัดเขาจะเอาคดีมาให้ ตอนนั้นต้นยางก็ใกล้จะกรีด ลูกก็เรียนอยู่ ต้องตัดไปทั้งน้ำตา”

ป้าแสงเดือนหรือนางวันหนึ่ง ยาวิชัยป้อง หญิงชาวบ้านแม่กวัก จังหวัดลำปาง คืออีกหนึ่งเหยื่อของปฏิบัติการยึดที่ดินทำกินที่มีนโยบายทวงคืนผืนป่ายุค คสช.และหน่วยงานรัฐใช้เป็นฉากหน้า อันปูทางสู่อภิโปรเจคแย่งยึดทรัพยากรชุมชนท้องถิ่น ตอกเสาเข็มอำนาจการปกครองผืนป่าและเปลี่ยนความเขียวให้เป็นสินค้าสร้างกำไร

เธอถูกบังคับให้ตัดทำลายต้นยางพาราอันเป็นรายได้เลี้ยงดูครอบครัวถึง 2 ครั้ง ในปี 2556 และ 2558 เพื่อแลกกับความหวังว่าจะไม่ถูกดำเนินคดี แต่แล้วในเดือนกันยายน 2561 เธอถูกโขยงเจ้าหน้าที่เข้าแจ้งข้อกล่าวหาบนที่ดินทำกินสิบกว่าไร่ของตัวเอง ว่าเป็นผู้ครอบครองทำประโยชน์อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ พร้อมเรียกค่าเสียหายหลักล้านบาท

บ้านของเธอ คือหนึ่งในอีกหลายพันหมื่นชุมชนของประเทศที่ถูกรัฐเข้ามาประกาศเป็นพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติในปี 2514 และแม้จะมีหลักฐานทำกินตามโครงการของรัฐในอดีตทั้งแบบ สทก.1-2 เรื่อยมา แต่แทนที่จะได้รับสิทธิความมั่นคงในที่อยู่อาศัยที่ทำกินมากขึ้น แต่มันกลับตรงกันข้าม เมื่อปี 2535 ชุมชนของเธอกลายเป็นพื้นที่เตรียมประกาศเป็นป่าอนุรักษ์ของอุทยานแห่งชาติและคนในชุมชนก็ได้เริ่มสัมผัสกับการถูกตั้งข้อหาบุกรุกพื้นที่เตรียมประกาศอุทยานฯ นับจากนั้น

ปี 2561 ป้าแสงเดือนได้โล่งใจเปราะใหญ่ เมื่อศาลชั้นต้นมีคำพิพากษายกฟ้อง เนื่องจากเห็นว่าทำกินในพื้นที่มาก่อนการประกาศเป็นป่าสงวนฯ ไม่ได้มีเจตนาตามกล่าวหาและชุมชนมีการดูแลจัดการทรัพยากรร่วมกันลักษณะโฉนดชุมชนตามนโยบายรัฐตั้งแต่ยุค 2553

แต่นั่น ไม่สามารถหยุดความมุ่งมั่นของบางหน่วยงานได้ คดีของเธอเดินหน้าต่อในชั้นศาลอุทธรณ์และต่อมาได้กลับคำพิพากษาศาลชั้นต้นเมื่อปี 2563 สั่งจำคุก 1 ปี ไม่รอลงอาญา ข้อหาบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติโดยเจตนาและเรียกค่าเสียหาย 4 แสนบาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5% รวมทั้งให้เธอออกจากพื้นที่และรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง เธอจำเป็นต้องต่อสู้ต่อในชั้นศาลฎีกา ซึ่งจะได้ตัดสินในวันที่ 28 กันยายนนี้

เรื่องราวของเธอกลายเป็นกรณีสำคัญที่ฉายภาพความวิปริตบิดเบี้ยวของสังคมที่แทบไม่หลงเหลือลมหายใจให้ผู้คนที่ไร้อำนาจในสังคม กระบวนการยุติธรรมที่แสนไกลจากคนจน ความเหลื่อมล้ำสุดขั้วในการเข้าถึงทรัพยากร นโยบายกฎหมายป่าไม้ที่ไม่ใช่ของประชาชน รวมถึงความพยายามต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรมของป้าแสงเดือนเองและการร่วมผลักดันประเด็นนี้ให้เป็นวาระทางสังคมของผองเพื่อนหลายองค์เครือข่ายที่ยังยืนเคียงข้างเธอ

เขียนมาถึงตรงนี้ อีกโลกหนึ่ง ข่าวว่าคดียึดครองที่ป่า 6,000 กว่าไร่ ที่เกี่ยวพันกับบริษัทเจ้าสัวใหญ่ครอบครอง ซึ่ง DSI ได้สั่งฟ้องไปเมื่อปี 2563 ในวันนี้อัยการสูงสุดมีคำสั่ง “ไม่ฟ้องคดี”…

เรื่อง : ธนากร อัฏฐ์ประดิษฐ์

ภาพ : พชร คำชำนาญ

ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากผู้เขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง