60 กว่าปีที่รอคอย ขบวนความหวัง รถไฟสายใหม่ เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ คุ้มไหมกับที่หวัง?

Date:

“เชียงรายจะมีรถไฟแล้ว”

ประโยคขายฝันที่ฉันได้ยินตั้งแต่เด็กจนตอนนี้ใกล้จะเรียนจบมหาวิทยาลัยแล้วก็ยังไม่เคยเห็นรถไฟที่ว่านั้นสักที ด้วยภูมิประเทศอันประกอบไปด้วยเทือกเขาสลับซับซ้อน ที่ยากลำบากต่อการก่อสร้างและความคุ้มค่าต่อการลงทุน ทำให้เส้นทางรถไฟสายเหนือของไทยสิ้นสุดอยู่เพียงที่ชานชาลาเชียงใหม่มาอย่างยาวนาน 

จากทางรถไฟที่เฝ้ารอมาหลายสิบปี ผู้เฒ่าหลายคนล้มหายตายจากไปทั้งที่ยังไม่ได้เห็นแม้ร่องรอย คำบอกเล่าว่าทางรถไฟจะผ่านบ้านเราแล้ว ประโยคดังกล่าวดูเหมือนจะเป็นจริง หลังสถานที่ต่าง ๆ ที่ใช้เป็นเส้นทางรถไฟทางคู่สายใหม่ เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ เริ่มการก่อสร้าง เปิดที่ดิน พร้อมเกรดปรับพื้นที่โครงการ คู่ขนานกับการเวนคืนที่ดินในขอบเขตโครงการ  

เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ เส้นทางรถไฟแห่งอนาคต

(ภาพ: Facebook Page: รถไฟทางคู่ เด่นชัย เชียงราย เชียงของ)

โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ เป็นหนึ่งในโครงการพัฒนาระบบรางภายใต้ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย มีจุดเริ่มต้นที่อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ มุ่งไปทางทิศเหนือผ่านพื้นที่ 59 ตำบล 17 อำเภอ 4 จังหวัด ได้แก่ แพร่ ลำปาง พะเยา และสิ้นสุดที่อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย รวมระยะทาง 323.1 กิโลเมตร รูปแบบเส้นทางเป็นทางคู่ใหม่ขนานกันตลอดเส้นทาง มีสถานีทั้งสิ้น 26 สถานี ประกอบด้วย สถานีขนาดใหญ่ 4 สถานี สถานีขนาดเล็ก 9 สถานี และป้ายหยุดรถ 13 แห่ง มีลานขนถ่ายสินค้าจำนวน 4 แห่ง และย่านกองเก็บและบรรทุกตู้สินค้า 1 แห่งที่สถานีเชียงของ บนพื้นที่ 150 ไร่ พร้อมแนวถนนเชื่อมต่อด่านชายแดนเชียงของ โดยมีวัตถุประสงค์รองรับการเดินทางและขนส่งสินค้าภาคเหนือ รวมถึงรองรับศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้าเชียงของที่กำลังก่อสร้างจะเชื่อมการค้าระเบียงเศรษฐกิจแนวเหนือ-ใต้จากไทยไปลาว จีน เวียดนาม และเขตเศรษฐกิจตามนโยบายของรัฐบาล

เส้นทางเด่นชัย-เชียงของ นับเป็นอีกหนึ่งเส้นทางรถไฟแห่งอนาคต ที่จะสร้างมูลค่าเพิ่ม ทั้งด้านการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจการค้า สร้างรายได้ให้ประชาชนในพื้นที่ที่เส้นทางตัดผ่าน ตลอดจนช่วยส่งเสริมการเดินทางและการขนส่งสินค้าจากประเทศไทยไปยังประเทศเพื่อนบ้านได้ง่ายขึ้น และค่าใช้จ่ายลดลง เพื่อเปิดประตูสู่การค้าชายแดนภาคเหนือ 

จากการวิเคราะห์ผลประโยชน์จากโครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ: มุมมองของจังหวัดเชียงราย ในวารสารเศรษฐศาสตร์รามคําแหง พบว่า ภาคส่วนต่าง ๆ เห็นด้วยกับโครงการก่อสร้างทางรถไฟรางคู่สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ว่าจะก่อให้เกิดผลดีต่อเศรษฐกิจเชียงรายและจังหวัดที่มีการก่อสร้างทางรถไฟ อํานวยความสะดวกการค้าการลงทุนชายแดน การท่องเที่ยว ด้านคมนาคมขนส่งและด้านการจ้างงานระดับเศรษฐกิจชุมชน

แนวเส้นทางโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ (https://www.srt-denchai-chiangrai-chiangkhong.com/รายละเอียดโครงการ2)

60 กว่าปีที่รอคอย ย้อนรอยโครงการก่อสร้างทางรถไฟ

การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้วางแผนริเริ่มโครงการก่อสร้างรถไฟสายเด่นชัย-พะเยา-เชียงราย-เชียงของ ตั้งแต่ปี 2503 และได้มีการสำรวจเส้นทางเบื้องต้นเมื่อปี 2512 โดยกำหนดให้ใช้เส้นทาง เด่นชัย-แพร่-สอง-เชียงม่วน-ดอกคำใต้-พะเยา-ป่าแดด-เชียงราย เป็นระยะทาง 273 กิโลเมตร แต่โครงการดังกล่าวก็ได้หยุดชะงักลงเพราะต้องใช้งบประมาณมาก หากลงทุนไปอาจจะไม่คุ้มค่ากับงบประมาณที่เสียไป  

ต่อมาในปี 2537-2538 ทางการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ปัดฝุ่นโครงการนี้อีกครั้ง และได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาทำการทบทวนผลการศึกษาได้ข้อสรุปว่า โครงการก่อสร้างรถไฟสายเด่นชัย-พะเยา-เชียงราย มีความเหมาะสมในการดำเนินงานโดยผ่านแนวเส้นทาง เด่นชัย-แพร่-สอง-งาว-พะเยา-เชียงราย และลดระยะเส้นทางเหลือ 246 กิโลเมตร ทำให้ในปี 2539-2541 ใช้งบประมาณราว 2.2 ล้านบาท เพื่อว่าจ้างเอกชนให้สำรวจออกแบบและศึกษาผลกระทบ จนมีพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดินในปี พ.ศ. 2544 กระทั่งปี 2547 ได้มีการศึกษาความเหมาะสมของการก่อสร้างทางรถไฟอีกครั้ง พร้อมทำการศึกษาความเหมาะสมของการต่อขยายเชื่อมโยงกับประเทศจีนตอนใต้ ซึ่งผลการศึกษาสรุปได้ว่าแนวทางที่ได้ทำการสำรวจออกแบบไว้นั้นเป็นเส้นทางที่มีความเหมาะสมมากที่สุด

จนถึงปี 2552 ทางรัฐบาลได้มีนโยบายในการพัฒนาโครงข่ายระบบร่างและการให้บริการรถไฟ ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้เสนอแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของการรถไฟ พ.ศ. 2553-2554 ต่อคณะรัฐมนตรี และมีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2552 รวมทั้งเห็นชอบแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของการรถไฟ

โครงการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย ได้มีการดำเนินการศึกษาความเหมาะสมฯ งานออกแบบรายละเอียด งานศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม และผ่านการประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นของชุมชนและการมีส่วนร่วมภาคประชาชน การประชุมสัมมนาทางวิชาการ โดยการรถไฟแห่งประเทศไทยได้ว่าจ้างบริษัทเอกชน 4 ราย ทำการศึกษาโครงการก่อสร้างใหม่ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2554 – เดือนมิถุนายน 2555 และได้ทำการออกแบบโครงการและจัดทำรายงาน EIA แล้วเสร็จเมื่อเดือนตุลาคม 2559 เดิมมีกำหนดการสร้างในปี 2560 แต่ถูกเลื่อนออกไป

ในที่สุดมีการความเปลี่ยนแปลงก็เกิดขึ้นอีกครั้ง ในวันที่ 31 กรกฎาคม 2561 เมื่อคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่เริ่มจากชุมทางเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 323.1 กิโลเมตร ระยะเวลาดำเนินการ 72 เดือน อย่างไรก็ตาม การดำเนินการล่าช้าออกไป เพราะกว่าจะเปิดประมูลก็ล่วงเข้าปี 2564 จนวันที่ 29 ธันวาคม 2564 นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ร่วมลงนามสัญญาจ้างก่อสร้างกับผู้รับจ้างจำนวน 3 สัญญา วงเงินรวม 85,345 ล้านบาท ซึ่งเริ่มเวนคืนที่ดินในเดือนเมษายน 2565 และส่งมอบที่ดินแปลงแรกเพื่อการก่อสร้างในเดือนมิถุนายน 2565 โดยมีกำหนดก่อสร้างเสร็จและเปิดบริการในปี 2571

หากการก่อสร้างแล้วเสร็จตามแผนการดังกล่าว ก็ถือเป็นเส้นทางรถไฟที่ใช้เวลารอคอยยาวนานถึง 68 ปี กว่าที่ความฝันจะปรากฏเป็นจริง 

ความคืบหน้ารถไฟเด่นชัย-เชียงราย

การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เผยถึงความคืบหน้าโครงการรถไฟทางคู่เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ในเดือนเมษายน 2567 ว่าโครงการยังเดินหน้าตามแผนงานที่วางไว้ โดยภาพรวมงานก่อสร้าง คืบหน้า 9.409% แผนสะสม 9.238% เร็วกว่าแผน 0.171%

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวแบ่งการก่อสร้างออกเป็น 3 สัญญา ประกอบด้วย สัญญาที่ 1 ช่วงเด่นชัย-งาว ระยะทาง 104 กม. คืบหน้า 9.165% แผนงานสะสม 4.484% เร็วกว่าแผน 4.681% สัญญาที่ 2 ช่วงงาว-เชียงราย ระยะทาง 132 กม. คืบหน้า 10.816% แผนงานสะสม 11.237% ช้ากว่าแผน -0.421% และสัญญาที่ 3 ช่วง ช่วงเชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 87 กม. คืบหน้า 7.792% แผนงานสะสม 12.980% ช้ากว่าแผน -5.188%

อย่างไรก็ตาม นอกจากความก้าวหน้างานด้านโยธาแล้ว ปัจจุบัน รฟท. ยังได้เร่งรัดการดำเนินงานเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ควบคู่กันไปด้วย เพื่อให้สามารถส่งมอบพื้นที่ให้ผู้รับจ้างดำเนินการก่อสร้าง ให้โครงการสามารถเสร็จสิ้นได้ตามแผนต่อไป โดยทั้ง 3 สัญญามีพื้นที่ที่ต้องดำเนินงานเวนคืนฯ รวม 8,665 แปลง 12,076 ไร่ แบ่งเป็น ที่ดินมีเอกสารสิทธิ 7,704 แปลง ที่ดิน สปก. 783 แปลง พื้นที่ป่า 13 แปลง อื่นๆ 465 แปลง และสิ่งปลูกสร้าง 5,053 รายการ  ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มทำสัญญาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์กับชาวบ้านที่ถูกเวนคืนในโครงการฯ แล้ว 

ความก้าวหน้างานก่อสร้างเดือนเมษายน 2567 (https://www.srt-denchai-chiangrai-chiangkhong.com)

เสียงแห่งความผิดหวังของชาวบ้านที่ถูกเวนคืนที่ดิน

หลังมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน เจ้าหน้าที่ของการรถไฟฯ จึงดำเนินการเวนคืนที่ดิน เพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ แต่ปรากฏว่าค่าทดแทนที่ดินที่ถูกเวนคืนที่ผู้ถือเวนคืนจะได้รับนั้นไม่สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทยได้กำหนดราคาประเมินที่ใช้ในการคำนวณเพื่อจ่ายเป็นค่าทดแทนให้แก่ผู้ที่ถูกเวนคืนนั้นโดยอ้างอิงราคาจากกรมธนารักษ์ หรืออ้างอิงราคาจากสำนักงานที่ดิน หรืออ้างอิงจากราคาซื้อขายกันตามปกติในท้องตลาดของที่ดินในวันใช้บังคับพระราชกิจฎีกาตามมาตรา 8 ซึ่งเป็นราคาประเมินที่ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน จึงเป็นเหตุให้ผู้ที่ถูกเวนคืนที่ดิน เป็นผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนได้รับผลกระทบจากการถูกเวนคืนที่ดิน ไม่สามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้ รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลจากทางเจ้าหน้าที่ ก็ไม่มีความชัดเจนจึงทำให้ชาวบ้านเกิดความกังวลใจในการที่จะทำสัญญาต่าง ๆ

ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจึงได้ยื่นคำร้องขอให้ทบทวนการจ่ายค่าทดแทนการเวนคืนที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของการก่อสร้างรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ โดยมีข้อเรียกร้อง 2 ข้อ คือ ขอให้ รฟท.ปรับราคาเวนคืนที่ดินให้สูงขึ้นและเป็นธรรมต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบ และข้อที่ 2 หากไม่สามารถปรับได้ ขอให้จัดสรรที่ดินบริเวณใกล้เคียงรัศมีไม่เกิน 1 กิโลเมตร ทดแทนที่เดิมของชาวบ้าน รวมทั้งต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ดีด้วย

“ค่าเวนคืนที่ได้ไม่เป็นธรรม สิ่งที่เราเสียไม่ใช่แค่ที่ดินที่เวนคืน แต่คือที่นาที่ทำมาหากิน ที่มรดกตกทอดมาจากพ่อแม่ เงินที่ได้มาจะเอาไปซื้อใหม่ก็ไม่พอ”

“ทางรถไฟผ่านกลางนา เขาจ่ายค่าเวนคืนเฉพาะที่เขาใช้ พื้นที่ด้านข้างเราใช้ประโยชน์ไม่ได้ขอให้เขาซื้อ เขาไม่เอา เขาว่าไม่เข้าหลักเกณฑ์”

เสียงความทุกข์ที่เกิดขึ้นกับผู้คนที่ถูกเวนคืนที่ดินตลอดเส้นทางการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ จากสิ่งที่เฝ้ารอนานนับหลายสิบปี กลายมาเป็นฝันร้ายและความเจ็บซ้ำที่เกิดขึ้นจากค่าเวนคืนที่ดินที่ไม่เป็นธรรม

โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ เป็นโครงการขนาดใหญ่และใช้งบประมาณเป็นจำนวนมาก แม้ว่าจะก่อให้เกิดผลดี ทั้งด้านการท่องเที่ยว เศรษฐกิจการค้า และการคมนาคมขนส่ง แต่โครงการดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชาชน ดังนั้น จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ประชาชนทุกคนมีสิทธิ์ที่จะได้รับรู้ข้อมูลและข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ภาครัฐควรมีการวางแผนและการบริหารจัดการที่ดี โดยการให้ความสำคัญกับการชดเชยที่เป็นธรรม การให้ข้อมูลและคำปรึกษาแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และการมีมาตรการในการป้องกันและบรรเทาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างเหมาะสม

อ้างอิง

นักศึกษาวารสาร ผู้ชื่นชอบการเขียน การหาข้อมูลและการถ่ายภาพด้วยกล้องฟิล์ม สนใจประเด็นทางสังคม โดยเฉพาะเรื่องสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจสร้างสรรค์ และศิลปะวัฒนธรรมในชุมชน

นลินี ค้ากำยาน
นลินี ค้ากำยาน
นักศึกษาวารสาร ผู้ชื่นชอบการเขียน การหาข้อมูลและการถ่ายภาพด้วยกล้องฟิล์ม สนใจประเด็นทางสังคม โดยเฉพาะเรื่องสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจสร้างสรรค์ และศิลปะวัฒนธรรมในชุมชน

ความทรงจำดีๆ จากเชียงใหม่ ถึง ‘บินหลา สันกาลาคีรี’ ผู้บินไกล

หลายคนรู้จักมักคุ้นชื่อ ‘บินหลา สันกาลาคีรี’ นักเขียนอารมณ์ดี เจ้าของผลงาน หลังอาน, ดื่มทะเลสาบ อาบทะเลทราย, บินทีละหลา,...

Lanner Joy: Midnight Rice Fest 2025 สร้างคนและพื้นที่ให้เชื่อมถึงกัน

เรื่อง: สุทธิกานต์ วงศ์ไชย, ภาพ: คน.ข้าวยาคู้.ช้างม่อย คืนก่อนวันเพ็ญเดือนสิบสอง แสงทองจากผางประทีปส่องระยิบระยับตามแนวกำแพงในวัดชมพู ย่านช้างม่อย กลิ่นถั่ว งา...

สารหนูปนเปื้อนสาละวิน คพ.ยันปลอดภัย นักวิจัยเตือนอย่าด่วนสรุปก่อนผลแล็บจริง

ภาพ: กรมควบคุมมลพิษ เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2568 ผศ.ดร.ว่าน วิริยา ผู้ช่วยหัวหน้าศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่...

เครือข่ายชุมชนแม่ยาวเชียงราย ค้าน ‘ฝายดักตะกอน’  ชี้ไม่แก้ปัญหาน้ำกก ร้องรัฐบาลจริงใจแก้ปัญหาสารพิษข้ามพรมแดน

6 พฤศจิกายน 2568 ที่ตำบลแม่ยาว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย สมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิตร่วมกับเครือข่ายสิทธิชุมชนเชียงราย เป็นตัวแทนชุมชนชาติพันธุ์ในพื้นที่ ได้จัดเวทีระดมความคิดเห็นเพื่อจัดทำข้อเสนอเตรียมเข้าสู่เวทีรับฟังความคิดเห็นของกรมทรัพยากรน้ำ...