สภานักศึกษามช. ยื่นหนังสือถึงอธิการบดี จี้มหาลัยฯตอบสนองกรณีอดีตคณบดีคณะวิจิตรศิลป์แจ้งความอาจารย์และนักศึกษา ข้อหาบุกรุกหอศิลป์

เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายนที่ผ่านมา อักษราภัค ชุติโชค และวิธวินท์ ศรีพิกุลพันธ์ ตัวแทนกรรมาธิการสามัญคุ้มครองนักศึกษาจากการถูกคุกคามโดยรัฐในกรณีทางการเมือง สภานักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ทำการยื่นหนังสือบันทึกข้อความ ข้อเรียกร้องจากกรรมาธิการสามัญคุ้มครองนักศึกษาจากการถูกคุกคามโดยรัฐในกรณีทางการเมือง สภานักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กรณีนักศึกษาและอาจารย์ถูกแจ้งความดำเนินคดีโดยอดีตคณบดีคณะวิจิตรศิลป์ ถึง พงษ์รักษ์ ศรีบัณฑิตมงคล อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อทวงถามความคืบหน้าต่อมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในกรณีที่ อัศวิณีย์ หวานจริง อดีตคณบดีคณะวิจิตรศิลป์ได้แจ้งความดำเนินคดีกับอาจารย์และนักศึกษาสาขาสื่อศิลปะและการออกแบบสื่อ คณะวิจิตรศิลป์ จากการร่วมกันตัดโซ่เข้าไปใช้พื้นที่หอนิทรรศการศิลปวัฒนธรรมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อการแสดงงานศิลปนิพนธ์ในช่วงเดือนตุลาคม 2564

สำหรับกรณีดังกล่าว ทางกรรมาธิการสามัญคุ้มครองนักศึกษาจากการถูกคุกคามโดยรัฐในกรณีทางการเมือง สภานักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ออกแถลงการณ์ไปแล้วก่อนหน้านี้ตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน 2565 รวมไปถึงหนังสือที่กลุ่มนักศึกษา อาจารย์ ศิษย์เก่า และประชาชนได้เดินทางไปยื่นแก่อธิการบดีที่อาคารสำนักงานมหาวิทยาลัย หลังกระบวนการรับทราบข้อกล่าวหากับเจ้าพนักงานที่สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2565 ซึ่งข้อเรียกร้องเหล่านี้ยังคงไม่ได้รับการแถลงหรือตอบสนองอย่างเป็นสาธารณะโดยมหาวิทยาลัยเชียงใหม่

โดยหนังสือที่ทางกรรมาธิการฯ ได้ยื่นแก่อธิการบดีเมื่อวานนี้นั้น มีเนื้อหาดังนี้

เรื่อง ข้อเรียกร้องจากกรรมาธิการสามัญคุ้มครองนักศึกษาจากการถูกคุกคามโดยรัฐในกรณีทางการเมือง สภานักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กรณีนักศึกษาและอาจารย์ถูกแจ้งความดำเนินคดีโดยอดีตคณบดีคณะวิจิตรศิลป์

เรียน อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่

สิ่งที่แนบมาด้วย

1. แถลงการณ์กรรมาธิการสามัญคุ้มครองนักศึกษาจากการถูกคุกคามโดยรัฐในกรณีทางการเมือง สภานักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ “ กรณี : อดีตคณบดีคณะวิจิตรศิลป์แจ้งความฟ้องร้องอาจารย์และนักศึกษาสาขาสื่อศิลปะและการออกแบบสื่อ” 1 ฉบับ

2. หนังสือถึงอธิการบดี ขอความเป็นธรรมให้ถอนแจ้งความร้องทุกข์และสอบสวนความผิดกรณีปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต 1 ฉบับ

สืบเนื่องจากกรรมาธิการสามัญคุ้มครองนักศึกษาจากการถูกคุกคามโดยรัฐในกรณีทางการเมือง สภานักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้รับทราบถึงกรณีที่นักศึกษาและอาจารย์จากคณะวิจิตรศิลป์ได้รับหมายเรียกผู้ต้องหาจากสถานีตำรวจภูธรภูพิงค์ราชนิเวศน์ ในข้อหาร่วมกันเข้าไปในอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นฯ จากการเข้าใช้สถานที่หอนิทรรศการศิลปวัฒนธรรมเพื่อจัดแสดงผลงานศิลปนิพนธ์ในช่วงเดือนตุลาคม 2564 หลังกระบวนการขออนุญาตเข้าใช้สถานที่ดังกล่าวยืดเยื้อและไม่มีคำตอบที่ชัดเจน ท่ามกลางข้อครหาจากสังคมต่อประเด็น การไม่อนุมัติการใช้สถานที่เพื่อปิดกั้นการแสดงผลงานที่มีนัยยะเกี่ยวกับการเมือง ซึ่งในหมายเรียกดังกล่าวได้มีการระบุชื่อ “ อัศวิณีย์ หวานจริง ” อดีตคณบดีคณะวิจิตรศิลป์เป็นผู้กล่าวหา โดยให้ผู้ต้องหาไปรายงานตัวในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2565 เวลา 13.00 น. จึงได้ออกแถลงการณ์ “ กรณี : อดีตคณบดีคณะวิจิตรศิลป์แจ้งความฟ้องร้องอาจารย์และนักศึกษาสาขาสื่อศิลปะและการออกแบบสื่อ ” ในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2565 อันมีเนื้อหาเรียกร้องและตั้งคำถามเพื่อให้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่แสดงจุดยืนเพื่อรักษาเสรีภาพทางวิชาการ ด้วยการร่วมเป็นคนกลางพร้อมสภานักศึกษาในการเจรจาระหว่างคู่กรณีให้มีการถอนการแจ้งความดำเนินคดี แถลงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกระบวนการดำเนินคดีอย่างเป็นสาธารณะ แสดงจุดยืนต่อเสรีภาพทางวิชาการ ตลอดจนรับประกันไม่ให้มีการคุกคามนักศึกษา บุคลากร และประชาคมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในทุกรูปแบบ ตามที่ได้ระบุในเอกสารที่แนบมาด้วยฉบับที่ 1 นอกจากนี้ ทางกรรมาธิการฯ ยังได้ส่งตัวแทนเข้าร่วมสังเกตการณ์กระบวนการรับทราบข้อกล่าวหาในวัน เวลา และสถานที่ตามหมายเรียกผู้ต้องหา เพื่อติดตามข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิดอีกด้วย

จากการเข้าร่วมสังเกตการณ์ดังกล่าว ทางกรรมาธิการฯ ได้รับทราบว่าหลังสิ้นสุดกระบวนการรับทราบข้อกล่าวหา นักศึกษา อาจารย์ ศิษย์เก่า ประชาชนทั่วไป และศิลปินจำนวนหนึ่งได้เดินทางไปยังอาคารสำนักงานมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อยื่นหนังสือแก่อธิการบดี ร้องเรียนให้มหาวิทยาลัยดำเนินการให้เกิดการถอนแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ให้ปากคำเพิ่มเติมตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏต่อศาลปกครองจังหวัดเชียงใหม่ และแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงจากบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์อันนำมาสู่การแจ้งความแก่พนักงานสอบสวนครั้งนี้ ในประเด็นการปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตลอดจนการแจ้งความเท็จต่อพนักงานสอบสวน ตามเนื้อหาในเอกสารที่แนบมาด้วยฉบับที่ 2 โดยมี “อรัญ กันธิยะ” ผู้อำนวยการกองกฎหมาย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เสนอตัวเป็นผู้รับหนังสือแทนอธิการบดี

ทางกรรมาธิการ ฯ เห็นว่าขณะนี้เป็นเวลากว่า 14 วันหลังมีการออกแถลงการณ์และยื่นข้อเรียกร้องดังที่ได้อ้างถึงแล้ว ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ยังคงไม่มีการแถลงหรือตอบสนองข้อเรียกร้องใด ๆ อย่างเป็นสาธารณะท่ามกลางการติดตามและจับตามองของประชาคมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รวมถึงประชาชนทั่วประเทศเป็นจำนวนมาก จึงขอเรียกร้องให้มหาวิทยาลัยไตร่ตรองถึงความสำคัญในการตอบสนองข้อเรียกร้องเหล่านี้อย่างถี่ถ้วน และทันท่วงที รวมถึงดำเนินการตอบสนองตามแถลงการณ์ข้อเรียกร้องจากกรรมาธิการ ฯ และกลุ่มผู้เรียกร้องอย่างเป็นสาธารณะโดยด่วน มิเช่นนั้น ความเชื่อมั่นต่อปณิธาน วิสัยทัศน์ และพันธกิจของมหาวิทยาลัยอาจสั่นคลอนได้ในเร็ววัน

จึงเรียนมาเพื่อพิจารณาและดำเนินการ

(อ่านเอกสารฉบับเต็มได้ที่ https://cmu.to/StopSLAPP)

ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากผู้เขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง