ไกล ศูนย์ กลาง: ‘รักเก่าที่บ้านเกิด’ ถึง ‘สมศรี 1992’ และ ‘วิท’ลัยหลายใจ’ จินตภาพแช่แข็งชนบทไทยในเพลงลูกทุ่ง

Date:

เรื่อง: ป.ละม้ายสัน

ภายหลังการเลือกตั้งในวันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 ที่ผ่านมา แม้เวลาจะล่วงเลยไปกว่าครึ่งปีแล้ว และผลเลือกตั้งจะเป็นที่พอใจของใครหลาย ๆ คนแต่บางพื้นที่ แต่ก็ไม่สามารถนำกลุ่มอำนาจเก่าออกไปทั้งหมดได้ การดำรงอยู่ของกลุ่ม “บ้านใหญ่” ที่มักมีฐานเสียงจากต่างจังหวัด แม้การเลือกตั้งในครั้งปัจจุบันบ้านใหญ่ในหลายที่จะล้มหลายตายจากไปจากการเมือง แต่ก็ไม่หายไปทั้งหมด

ดังนั้น ผู้คนที่อยู่อาศัยในต่างจังหวัดต้องตกเป็นเป้าโจมตีจากชนชั้นกลางในเมืองหรือ ผู้มีการศึกษาว่าเป็นพวกแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่ไปรับเงินเพียงแค่ 300-500 บาท โดยไม่สนใจความเปลี่ยนแปลงใด ๆ ปรากฏการณ์ข้างต้นนี้ชี้ให้เห็นการมองชนบทในฐานะที่ห่างไกลต่อความเจริญ เป็นเขตแดนที่พ้นออกไปจากเมืองหลวง เป็นชายขอบ และเป็นอื่น กระทั่งเลวร้ายที่สุดคือการขจัดออกไปจากพื้นที่สังคม ไม่มีแม้แต่พื้นที่ชายขอบให้อยู่อาศัย[1]

ภาพเหล่านี้อยู่ในความคิดของผู้คนไม่มากก็น้อย สิ่งสำคัญที่มีผลต่อการผลิตซ้ำภาพแบบนี้ได้อย่างดี นั่นคือสื่อที่ผลิตภาพของชนบทอย่างต่อเนื่อง อาทิ วรรณกรรม ละคร เพลง[2] ผู้เขียนเลือกสื่อหยิบยกสื่อที่สามารถจรรโลงผู้คนในสังคมได้ค่อนข้างมากคือเพลง โดยเฉพาะเพลงลูกทุ่งที่มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างเมืองกับชนบท กล่าวคือ เพลงลูกทุ่งคือสื่อที่ผลิตในเมือง และมิได้เป็นภาพสะท้อนของผู้คนในชนบทโดยตรง แต่เป็นการสร้างภาพแทนชนบทผ่านเงื่อนไขของชีวิตผ่านคนในเมือง (นิธิ , 2557, น 22-24)

เพลงที่ผู้เขียนหยิบมาใช้เพื่ออธิบายต่อจินตภาพของชนบท คือ เพลงรักเก่าที่บ้านเกิด ของเอกชัย ศรีวิชัย สมศรี 1992 ขับร้องโดย และ 3 วิด’ลัยหลายใจ ของ วิด ไฮเปอร์ เหตุที่เลือกเพลงเหล่านี้เนื่องจากเห็นภาพขั่วตรงข้ามระหว่างเมืองกับชนบทในสังคมได้อย่างชัดเจน ซึ่งเป็นการนำเสนอภาพของชนบทที่ออกมาคล้ายกันคือภาพของชนบทผู้โง่เขลา ชนบทผู้ใสซื่อ ชนบทที่ถูกรังแกจากเมือง สองเพลงนี้จึงชี้ให้เห็นจินตภาพของชนบทที่ค่อนข้างชัดเจน

เพลงรักเก่าที่บ้านเกิด นำเสนอภาพของผู้หญิงในต่างจังหวัดที่รับไม่ไหวกับความทุกข์ทรมานในเมือง จึงหนีกลับมาที่บ้านในชนบท ดังเนื้อเพลงที่ว่า ..ได้ข่าวว่าสาวไปบวชเป็นชี สูญเสียความดีพี่น้องเมินหน้า ถูกมารสังคมหลอกขาย รอดตาย กลับมา อยากไปเยี่ยมไปหา…กลัวเอาน้ำตาไปอวดแม่ชี …สุขเถิดแม่ชี อยู่ดีเถิดหนา…พลอยโมทนาหมู่มารอย่ามี…เจอแสงพระธรรมชี้นำเห็นทาง เจอแสงสว่างสิ้นเวรกันที ลาแล้ว แม่ชี ชาตินี้ขอโมทนา”

หรืออีกเพลงที่นำเสนอภาพของผู้หญิงต่างจังหวัดที่เข้าไปในเมืองจนหลงแสงสีอย่างเพลง สมศรี 1992 ดังเนื้อหาที่ว่า “…กลับนาเถิดศรี หนีไปด้วยกัน แล้วไปสร้างสวรรค์ อยู่บ้านท้องนาน่าม อย่าหลงไฟแดง ส่งสีแสงเผาหน้าเหี่ยวย่น จะพาไปรดน้ำมนต์ ล้างคาวเป็นดาวบ้านนา”

ส่วนเพลงวิด’ลัยหลายใจ ได้ให้ภาพของคนต่างจังหวัดที่เข้ามาศึกษาในกรุงเทพมหานคร มีเนื้อหาค่อนข้างคล้ายกับสองเพลงด้านบน กล่าวคือ เป็นภาพของผู้หญิงผู้หลงแสงสี โดยท่องหนึ่งร้องว่า มองเห็นเธอโยกกลายกลางไฟหลากสี ใจจะขาดตรงนี้ คนเดิมของพี่ไปไหน”

ภาพของชนบททั้งสามเพลงนี้นำเสนอภาพชนบท ผ่านตัวแทนอย่างผู้หญิงที่เป็นตัวแบบสำคัญของผู้คนในชนบท ภาพชนบทผู้โง่เขลาทั้งสองเพลงนี้คือการชี้ให้เห็นภาพของผู้หญิงในการดำเนินเรื่องของทั้งสามเพลงที่ถูกเมืองเป็นผู้กระทำ เมืองจึงเป็นสิ่งที่เลวร้าย

สิ่งเหล่านี้จึงเป็นจินตภาพของเมืองไทยนี้ดี ถูกสร้างผ่านชีวิตในชนบท ผู้คนมีคุณธรรมและระบบความเชื่อ ตลอดจนจารีตประเพณีที่เป็นกฎหมายคุ้มครองคนในชนบท เรามีศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ พระสงฆ์มีบทบาทสำคัญดูแลความป่วยไข้ของชาวบ้าน เมื่อชาวบ้านมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้ง พระสงฆ์มีบทบาทสำคัญในการไกล่เกลี่ย

นอกจากนี้แล้ว เมืองไทยในชนบทยังมีความอุดมสมบูรณ์ มีธรรมชาติสวยงามภาพความเป็นไทยจึงเป็นชนบทอันดีงามสืบเนื่องมาจากพุทธศาสนาและขนบธรรมเนียมประเพณี การผลิตสร้างอุดมการณ์ความเป็นไทยในลักษณะนี้เป็นไปเพื่อสร้างความภาคภูมิใจ ความรักความหวงแหนต่อบ้านเกิด[3]

อย่างไรก็ตาม ภาพเมืองไทยนี้ดีเป็นภาพที่ลดทอนปัจจัยทางเศษฐกิจ สังคม การเมือง หรือลดปัญหาโครงสร้างเหลือเพียงปัญหาเชิงศีลธรรม แต่ศีลธรรมนั้นใครเป็นผู้กำหนดและกำหนดด้วยวัตถุประสงค์ใดจินตภาพเมืองไทยนี้ดีจึงมักถูกละทิ้ง ลดทอน ซึ่งบางครั้งเป็นปัญหาต่อสังคมไทยอย่างใหญ่หลวงนำมาสู่การแก้ปัญหา และทำอย่างไรก็แก้ไม่ได้เพราะเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างในปัจจุบัน[4]

มายาภาพของชนบทผู้โง่เขลาหรือชนบทที่โง่จนเจ็บ มักกลับมาเกือบทุกครั้งช่วงการเลือกตั้ง บทเพลงทั้งสองเรื่องนี้ได้เสนอภาพของชนบทผู้โง่เขลา ชนบทผู้ทุกข์ยาก ชนบทผู้ถูกกระทำจากคนเมือง แต่อีกแง่หนึ่งเพลงก็นำเสนอภาพของชนบทที่สวยงาม สงบเย็น

ในประวัติศาสตร์ร่วมสมัยภาพของชนบทมีลักษณะที่ผันแปรไป เพราะชนบทเป็นพื้นที่ที่สัมพันธ์กับเมือง โดยเฉพาะการเข้ามาของถนน สิ่งที่รัฐได้กระทำการเหล่านี้ได้นำไปสู่ภาพของชนบทในลักษณะเมือง และเมืองที่มีความเป็นชนบท เพราะฉะนั้น ชนบทจึงมิใช่พื้นที่ที่เป็นอื่นอีกต่อไป[5]

ถึงที่สุดแล้ว ในปัจจุบัน สื่อต่าง ๆ ที่ผลิตภาพของชนบท อาทิ ภาพยนต์ ละคร เพลง มีความลักษณะที่หลุดออกจากจินภาพที่กล่าวมานี้ เราจะเห็นได้จากจักวาลไทบ้านที่มีน้ำเสียงของชนบท หรือแม้แต่เพลงอีสานหลากหลายบทเพลงก็แทบจะกลายเป็นวัฒนธรรมกระแสหลัก และพยายามตอบโต้วาทกรรมหลักที่มักกล่าวว่าชนบทเป็นสิ่งที่ “โง่ จน เจ็บ” แต่ก็ไม่สามารถหลุดออกจากกรอบที่ผู้เขียนพยายามอธิบายมานี้ได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ซึ่งสามารถเห็นได้ในทุกฤดูกาลเลือกตั้งเกือบทุกครั้ง


อ้างอิง

[1] สามชาย ศรีสันต์, บทสำรวจวาทกรรมชนบทและบ้านนอกในความเป็นไทย รื้อ-สร้าง-ทบทวน สำนึกและมายาคติต่อความขัดแย้งและความเหลื่อมล้ำของชนบทกับเมือง ตั้งแต่ไพร่ ชาวนา คนเสื้อแดง ถึงชนชั้นกลางใหม่ (กรุงเทพฯ: สมมติ, 2563) หน้า14-15.

[2] ทับทิม ทับทิม, “ ลูกทุ่งหรือลูกกรุง?: ความเป็นเมืองในชนบทไทย,” วรสารสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา , กรกฎาคม-ธันวาคม2554.

[3] สามชาย ศรีสันต์, บทสำรวจวาทกรรมชนบทและบ้านนอกในความเป็นไทย รื้อ-สร้าง-ทบทวน สำนึกและมายาคติต่อความขัดแย้งและความเหลื่อมล้ำของชนบทกับเมือง ตั้งแต่ไพร่ ชาวนา คนเสื้อแดง ถึงชนชั้นกลางใหม่ (กรุงเทพฯ: สมมติ,2563) หน้า92.

[4] ชัยพงษ์ สำเนียง, “เมืองไทยนี้ดี: จิตนภาพสังคมและวัฒนธรรมประเทศในฐานะหมู่บ้าน”,ประชาไท, https://prachatai.com/journal/2021/04/92635, (เข้าถึงเมื่อ 23/12/2566).

[5] สามชาย ศรีสันต์, “มโนทัศน์การพึ่งตนเองของชนบท: การลดทอนชนบทให้เป็นขั้วตรงข้ามกับเมือง,” มนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ , พฤษภาคม-สิงหาคม 2558.

ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการ
ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

มาตรการลงทะเบียนซิมด้วย Liveness Detection ถูกตั้งคำถาม กระทบคนไร้สัญชาติ–แรงงานข้ามชาติ ‘ตี่ตาง’ ชี้จำกัดสิทธิสื่อสาร แก้ปัญหาไม่ตรงจุด

จากกรณีที่ สำนักงานคณะกรรมการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ เเละกิจการโทรคมนาคมเเห่งชาติ (กสทช.) ประกาศใช้เทคโนโลยี Liveness Detection เมื่อวันที่...

พ่อหมอกฤตไท ร้องหยุดดองร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด ด้านสภาลมหายใจ เเถลงไม่ควรเอื้อนายทุน

หลังจากเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2568 สภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.บริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาดฯ ในวาระสามด้วยคะแนนเห็นด้วย 309 เสียง...

ให้คะแนนรัฐบาลอนุทิน ‘สอบตกยกแผง’ แก้ปัญหาน้ำกก–สายรวก–โขงปนเปื้อนโลหะหนัก จากเหมืองแร่ในรัฐฉาน

สืบสกุล กิจนุกร นักวิชาการด้านการพัฒนาระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ประเมินการทำงานของรัฐบาลไทยในการรับมือปัญหามลพิษข้ามพรมแดนจากเหมืองแร่ในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา ระบุว่า ‘สอบตกยกแผง’ พร้อมแจกแจงการประเมินเป็นรายบุคคลต่อผู้นำฝ่ายบริหารสามตำแหน่ง นายกฯ...

Lanner Joy: LOLA Gallery DRIP แรงบันดาลใจจากความฝันเล็กๆ สู่รากกาแฟห้วยตองก๊อที่เติบโตอย่างแข็งแรง

เรื่องและภาพ: สุทธิกานต์ วงศ์ไชย ยามบ่ายต้นเดือนพฤศจิกายนที่ลานกว้างของโครงการจริงใจมาร์เก็ต เชียงใหม่ เสียงแจ๊สลอยแผ่วเบาเคล้ากลิ่นกาแฟที่เพิ่งบดใหม่ เทศกาล Jazz Arabica กลับมาอีกครั้งในปี...