เมษายน 20, 2024

    บนแผ่นดินแม่​

    Share

    10/06/2022

    “ยายคะ​
    นานแค่ไหนแล้วนะ​
    ที่เราไม่ได้พบกันเลย​
    โลกาภิวัฒน์-โลกหนึ่งเดียว​
    พาฉันห่างจากยายไปเรื่อย ๆ​
    จากมหาสมุทรอินเดีย​
    สู่มหาสมุทรแอตแลนติก​
    ตรงขอบฟ้า..ที่ดวงตะวัน​
    เคลื่อนจากโลกตะวันออก​
    ไปสู่โลกตะวันตก​

    ยายคะ​
    หากจะนับจากจุดเริ่มต้น​
    ที่ฉันเริ่มถอยห่างจากยาย​
    ทีละนิด ทีละนิด ทีละนิด​
    ก็คงเป็นวันนั้นนั่นแหละค่ะ​
    วันที่ ‘คำเมือง’ ของแม่และยาย​
    ถูกล้อเลียนที่โรงเรียนในตัวจังหวัด​
    พวกเด็ก ๆ พากันหัวเราะฉันอย่างขบขัน​
    แม่ไม่ได้บอกเรื่องนี้กับยายใช่ไหมคะ​

    ยายคะ​
    แม่น้ำสายเล็ก ๆ ที่เคยไหลผ่านหมู่บ้านของ’ยาย’​
    ไม่ใช่สิ ! ของ ‘เรา’ เป็นยังไงบ้าง​
    กระแสน้ำใต้แดดอุ่นยามเช้า​
    ยังส่องประกายสีน้ำเงินวับวาว​
    เหมือนวันที่ฉันใส่’ซิ่นต๋า’ตัวน้อยไหมคะ​
    พี่น้องเรายังดื่มน้ำใสสะอาด​
    ที่ผุดออกมาจากชั้นหินสีเหลือง ชมพู ฟ้า​
    ของบ่อทรายริมแม่น้ำหรือเปล่า​
    แล้วหม้อน้ำสำหรับคนสัญจรไปมา​
    ยังตั้งอยู่หน้าบ้านเหมือนเดิมไหม​

    ยายคะ​
    ตลาดเช้าที่หุบเขาถนนธงชัย​
    ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง​
    สายลมยังอวลกลิ่นหอมของควันไฟ​
    จากหมูทอด ลิ้นหมูย่าง และข้าวเหนียวนึ่ง​
    ซึ่งยายเคยเคี้ยว ก่อนให้ฉันกินไหมคะ​
    ฉันคิดถึงสายหมอกขาว​
    ขณะโรยตัวในฤดูหนาววันนั้นจัง​
    ช่างขาวเหมือนก้อนเมฆและความฝันเสียจริง​

    ยายคะ​
    ค่ำคืนของหมู่บ้านเรา​
    ยังอบอุ่นเหมือนวันอันไกลโพ้นโน้นไหม​
    ไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองเลย​
    ว่าเพียงบาดแผลเล็ก ๆ บนฝ่าเท้าไร้เดียงสาของฉัน​
    ถึงกับทำให้ใครต่อใครแห่มาดู​
    ใต้แสงตะเกียงวอมแวมและวาบไฟจากบุหรี่ขี้โย​
    ฉันเห็นแววตาห่วงใยจากยายและญาติพี่น้อง​
    นั่นคือความจริง ไม่ใช่ความฝัน ใช่ไหมคะ​

    ยายคะ ตอนนี้ฉันยืนอยู่ที่หน้าบ้านเราแล้ว​
    บ้านไม้โบราณบันไดสูง​
    มีชานยื่นออกมาข้างนอก​
    ฉันขอโทษยายด้วย ที่จากยายไปนานเหลือเกิน​
    ไม่ได้ทำแม้กระทั่งส่งยายเดินทางไกล​
    ฉันไม่อยากโทษโลกาภิวัฒน์​
    เหมือนที่เคยเอ่ยอ้างหรอกค่ะ​
    มันช่างน่าอายจริง ๆ​

    ยายคะ ฉันคงฝันไปนะแหละ​
    นอกจากโกศเก็บกระดูกยายกับตาแล้ว​
    ฉันพบญาติพี่น้องใกล้ชิดไม่กี่คน​
    แม่บอกว่าหลายคนได้ตายไป​
    แต่หลายคนจู่ ๆ ก็กลายเป็นคนอื่น​
    เช้าวันรุ่งขึ้น​
    ฉันลองเดินไปที่ริมแม่น้ำ​
    ไม่ได้ยินแม้แต่หนึ่งเสียง​
    หรือเห็นใบหน้าคุ้นเคย​

    ยายคะ ในที่สุด​
    ฉันได้ลองเรียกชื่อยาย​
    และพี่น้องคนอื่นที่ยังอยู่ในความทรงจำ​
    น้าสิงห์คำ ป้าคำหล้า ลุงเสาแก้ว​
    แต่ไม่มีใครขานรับฉันเลย​
    ฉันจึงทำได้แค่มองไปที่แม่น้ำ​
    แล้วสายลมและความเงียบ​
    ก็พัดน้ำตาฉัน​
    ให้ปลิวไปในความแปลกหน้า​
    บนแผ่นดินแม่ !​
    ที่ยังสวยงามด้วยแม่น้ำ สายหมอก และภูเขา​
    ทว่าไม่มีใครจดจำฉันได้​
    หรือพูด’คำเมือง’กับฉันเลยสักคน”​

    บนแผ่นดินแม่​
    บทกวีโดย แม่น้ำ เรลลี่​

    Lanner เปิดพื้นที่สำหรับงานสื่อสารทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นบทความ งานวิชาการ ความเรียง เรื่องสั้น บทกวี สารคดี photo essay ที่บอกเล่าเรื่องราวทางสังคมต่างๆ ในพื้นที่ภาคเหนือและเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง โดยสามารถส่งมาได้ที่ lanner.editor@gmail.com ​ ร่วมสร้างพื้นที่สื่อสาร สังคมประชาธิปไตย ชีวิตใหม่ที่ดีกว่าไปด้วยกัน​

    #lanner​
    #กวีเน้อ

    Related

    สงกรานต์เมียนมาในวันที่ดอกประดู่ไม่บาน

    เรื่อง: Lanner Burmaภาพ: วิศรุต แสนคำ /  ฮวาน (ไม่ใช่ชื่อจริง) /...

    ฝุ่นพิษข้ามแดนในห้วงยามที่ “ทุน” สยายปีก

    เรื่อง: กองบรรณาธิการ การเปลี่ยนเข้าสู่เศรษฐกิจทุนนิยมในนามของเสรีนิยมใหม่ สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งคือการทำให้เอกชนเกิดแรงจูงใจเพื่อจะสามารถเข้าสู่การแข่งขันได้อย่างเสรีโดยปราศจากการผูกขาดโดยรัฐ จนเมื่อมีการเปิดให้ทุนสามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างเสรี จึงนำไปสู่ปัญหาการย้ายถิ่นฐานของธุรกิจเพื่อหลีกเลี่ยงกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อโลกอย่างมหาศาล หนึ่งในปัญหาที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ คือ “ปัญหาหมอกควัน”...