‘ภูธรคอนเนค’ เมื่อศิลปินภูธรสำแดงเดชไม่อิงเมืองหลวง

Date:

เรื่อง: วัชรพล นาคเกษม
ภาพ: ปรัชญา ไชยแก้ว



“ภูธรคอนเนค คำประสมระหว่างคำว่า ภูธร ที่หมายถึง กษัตริย์ ภูเขา หรือความหมายโดยสามัญสำนึกของคนไทย คือพื้นที่ที่อยู่นอกเมืองหลวง กับคำว่า คอนเนค คำทับศัพท์จากภาษาอังกฤษ ที่หมายถึง การเชื่อมต่อกัน ซึ่งเมื่อรวมกัน จึงหมายถึง การเชื่อมต่อหรือเครือข่ายที่เชื่อมต่อกันระหว่างพื้นที่นอกเมืองหลวง”

เป็นอีกเรื่องน่าตื่นเต้นสำหรับการรวมตัวที่มีชื่อเชย ๆ แต่แฝงเร้นไปด้วยความแสบสัน ในชื่อ Pootorn Connect : ภูธรคอนเนค เครือข่ายการดำเนินงานศิลปะแบบกระจายอำนาจ ที่จัดตั้งขึ้นจากความร่วมมือและการสร้างเครือข่ายศิลปินภูธรในประเทศไทย เพื่อแลกเปลี่ยน แบ่งปัน เรื่องราว ข่าวสาร ประสบการณ์ ข้อมูล องค์ความรู้ วัฒนธรรม โอกาส และการดำเนินกิจกรรมทางศิลปะร่วมกันระหว่างศิลปินท้องถิ่นที่อยู่นอกเมืองหลวง ซึ่งเป็นการลดการกระจุกทางโอกาส เปิดพื้นที่การแสดงออกในท้องถิ่นที่หลากหลาย ส่งเสริมการเข้าถึงฐานการรับรู้ของผู้คนที่แตกต่าง สร้างความเข้มแข็งอย่างยั่งยืนต่อสังคมศิลปะในประเทศไทยให้มีฐานราก เติบโตกระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาค และที่สำคัญเป็นการผลักดันให้ศิลปะเป็นสิ่งสามัญสำหรับทุกคนอย่างเท่าเทียม

เรานัดเจอกับคนทำงานศิลปะจากทั้ง 5 กลุ่มที่กระจายตัวอยู่ในต่างจังหวัดทั่วดินแดนประเทศไทย ในวันเปิดนิทรรศการเพื่อประกาศศักดาในชื่อ OPEN WORD: เปิดคำ Announcement Exhibition for “Pootorn Connect” Decentralized Autonomous Art Operation Network. เมื่อวันที่ 23 กันยายน ณ Kai Kaew Lamphun ไก่แก้วลำพูน จังหวัดลำพูน

ในบรรยากาศที่เหมือนเพื่อนเจอเพื่อนนัดพบปะสังสรรค์ มากกว่าที่จะเหมือนการมาดู Exhibition ที่จัดใน Gallery และนี่คือประโยคจากเพียงวรรคตอนหนึ่งที่เชื้อเชิญให้เราเดินทางมาโดยไม่ต้องคิดอะไรเพิ่มอีกแล้ว

“ถึงแม้ในโลกศิลปะของประเทศไทย จะไม่มีองค์กรใดองค์กรหนึ่งมีสิทธิ์ในการผูกขาดอำนาจการปกครองหรือการจัดการการเมืองทางศิลปะ(ในทางนิตินัย) แต่(ในทางพฤตินัย)สังคมแบบรวมศูนย์ กลับฝังรากลึกและเติบโตอยู่คู่กับสังคมศิลปะไทยเสมอมา เนื่องจากองค์กร มูลนิธิ สถาบัน หน่วยงาน ด้านศิลปะ ทั้งทางภาครัฐและเอกชนที่สำคัญ ต่างก็กระจุกการบริหารจัดการจากศูนย์กลาง วัฒนธรรมของการดำเนินกิจกรรมทางศิลปะ แหล่งทุน รวมถึงโอกาสต่างๆ จึงไม่ถูกกระจายไปยังภูมิภาคหรือท้องถิ่นอื่นๆเท่าที่ควร ในขณะที่องค์กรทางศิลปะของรัฐจะพยายามกระจายอำนาจโดยการก่อตั้งองค์กรศิลปะในส่วนท้องถิ่นขึ้น แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เกิดการกระจายอำนาจอย่างแท้จริง เพราะก็ยังต้องมีการบริหารจัดการและการตัดสินใจจากศูนย์กลาง และกลุ่มคนที่ยังผูกขาดการเข้าถึงแหล่งโอกาสต่างๆ ส่งผลกระทบต่อโอกาสของศิลปินท้องถิ่น ที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลความเจริญด้านศิลปะ ที่พวกเขาเหล่านั้นพยายามส่งเสียงแห่งมาตุภูมิของพวกเขาออกไป แต่ด้วยโครงสร้างทางสังคมแบบรวมศูนย์ที่กล่าวมา ทำให้เสียงเหล่านั้นเบาเกินกว่าที่คนส่วนใหญ่จะได้ยิน การรับรู้ถึงตัวตนของการมีอยู่ทั้งด้านพื้นที่และบุคคล การถูกยอมรับ การแก้ไขปัญหา และโอกาสในการเข้าถึงทรัพยากรที่ช่วยสนับสนุนการดำเนินงานทางศิลปะจึงหล่นหายไปด้วย”

ทำไมต้องภูธรคอนเนค?

“เพราะพวกเราก็เจ๋งเหมือนกัน”


(พงศ์ธร กิจพิทักษ์, ชินดนัย ปวนคำ)

พงศ์ธร กิจพิทักษ์ และ ชินดนัย ปวนคำ จาก ฮอมจ๊อยซ์ (Home Joint Artist)  2 ศิลปินจากจังหวัดเชียงรายที่ทำงานศิลปะเพื่อขับเคลื่อนประวัติศาสตร์พื้นถิ่น กล่าวถึงการรวมตัวกันของคนทำงานศิลปะเพื่อกระจายการรวมศูนย์ ว่าเป็นการสร้างเครื่อข่ายจากคนนอกศูนย์กลาง เพื่อให้ทุกคนรู้ว่าศิลปินภูธรนั้นมาการผนึกกำลังที่ใหญ่แค่ไหน เพื่อให้ศูนย์กลางหรือกรุงเทพฯ หันมามองศิลปินภูธรอย่างจริงจัง เพราะคนทำงานศิลปะในภาคเหนือก็มีความเจ๋งไม่ต่างจากศูนย์กลาง อีกทั้งนี่ยังเป็นการสร้างโอกาสเพื่อคนที่ทำงานศิลปะในพื้นที่นอกศูนย์กลางเพื่อให้ทุกคนได้รู้ว่าต้นทุนทางวัฒนธรรมภาคเหนือมีเยอะแค่ไหน

ด้าน อนุวัฒน์ อภิมุขมงคล จาก Patani Artspace บอกว่าภูธรคอนเนคคือการเข้าไปเปลี่ยนแปลงพื้นที่ Mindset ของผู้คน หรือแม้กระทั่งเรื่องของวิธีคิดหรือกระบวนการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับศิลปะหรืองานสร้างสรรค์ หรือ Sub-Culture ของท้องถิ่นให้เปลี่ยนมุมมองไป


(อนุวัฒน์ อภิมุขมงคล)

“อย่างที่นี่( ไก่แก้วลำพูน) ก็ไม่ใช่ Art Space มาก่อน แต่เราก็ใช้พื้นที่นี้เพื่อเป็นตัวอย่างว่าไม่จำเป็นต้องเป็นพื้นที่ที่มีชื่อเสียง ไม่ต้องเป็นจังหวัดที่คนส่วนใหญ่รู้จัก ไม่จำเป็นต้องเป็นศูนย์กลาง ถ้ามันมีความพร้อม เชื่อมโยงกับชุมชนได้ ผมคิดว่านี่คือจุดสำคัญ”

อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างที่ทั้งคู่สัมผัสได้ก็ไม่ได้มีเพียงข้อเสียเท่านั้น เพราะ สุพิชญา ขุนชำนิ และ อวิกา สมัครสมาน กลุ่มคนทำงานทางศิลปะในพื้นที่จังหวัดราชบุรี ก็มองว่าศิลปินภูธรเองก็สามารถเก็บข้อมูลจากงานศิลปะในศูนย์กลางมาประกอบใช้ในกลุ่มของตัวเองได้เช่นกัน เธอมองว่ามันเป็นแรงจูงใจเล็กๆ ที่ขับเคลื่อนการทำงานต่อไป เหมือนเป็นการหยิบประโยชน์จากความเป็นศูนย์กลางมาตอบโต้กลับไปอีกที

ศิลปินภูธรมีสิทธิ์ไหมคะ?


Lawnmower Man – I’m fine in my backyard โดย กฤตพร มหาวีระรัตน์/ Krittaporn Mahaweerarat

“กรุงเทพฯเป็นศูนย์กลางประเทศจากการแต่งตั้ง จากการเป็นเมืองหลวง แต่เราไม่คิดว่ากรุงเทพฯเป็นศูนย์กลางงานศิลปะ แต่เรารู้สึกว่าคนที่เข้าใจงานศิลปะจะอยู่ในกรุงเทพฯเป็นส่วนใหญ่ การทำงานของศิลปินในกรุงเทพฯจึงไม่ต้องลงแรงมาเท่ากับการทำงานกับคนดูนอกเขตกรุงเทพฯ โอกาสที่คนจะเข้าถึงศิลปะมักกระจุกกันอยู่ที่กรุงเทพฯ แต่งานศิลปะไม่ได้ทำตัวเป็นศูนย์กลางแต่อย่างใด อยู่ที่คนมากกว่า ไม่ว่าจะที่ไหนในประเทศไทยก็มีศิลปะ ถ้าอยากทำงานในพื้นที่ ก็ต้องสื่อสารกับคนในพื้นที่ หาวิธีนำงานศิลปะเข้าไปอยู่ในชุมชนพร้อมกับทำให้คนในชุมชนเข้าใจถึงสิ่งที่พวกเราทำอยู่ ไม่ใช่ทำเองดูเอง เป็นการขยายฐานคนดูและเพิ่มคุณค่าของงานศิลปะลงไปในพื้นที่ห่างไกล”


(ประภัสสร คอนเมือง)

ประภัสสร คอนเมือง จาก ผีฟ้าคอลเล็คทีฟ มองว่าการทำงานของศิลปินในกรุงเทพฯ นั้นไม่จำเป็นต้องลงแรงมากเท่ากับการทำงานกับความเข้าใจของผู้ชมนอกเขตกรุงเทพฯ เธอจึงมองว่านี่เป็นประเด็นที่ขึ้นอยู่กับผู้คนเสียมากกว่า

“โอกาสของศิลปินต่างจังหวัด คือวัตถุดิบในพื้นที่มากมายที่มีให้หยิบมาใช้สอย ความเป็นท้องถิ่นคือความร่ำรวยทางวัฒนธรรม อยู่ที่ว่าจะหยิบมาใช้กับงานศิลปะอย่างไร กลายเป็นโจทย์ที่ว่าจะทำอย่างไรให้การมารวมตัวกันเกิดความแข็งแรง ขยายโอกาสที่ไม่ใช่แค่คนในพื้นที่ แต่เป็นคนที่ไหนก็ตามที่ได้มาเรียนรู้งานในเครือข่ายจะสามารถสร้างจุดเชื่อมโยงกับเครือข่ายได้”

ซึ่ง พงศ์ธร และ ชินดนัย จาก ฮอมจ๊อยซ์ เชื่อว่าแม้โอกาสของศิลปินภูธรจะมีอยู่น้อย ต่างจากเมืองหลวงที่กระจุกไปด้วยโอกาสจากปัจจัยต่าง ๆ สิทธิต่าง ๆ น้อยกว่า มันเลยวกกลับมาว่านี่แหละเราถึงต้องรวมตัวกัน เพื่อเพิ่มสิทธิ์และโอกาส

พิชิต สอนก้อม และ อาทิตยาภรณ์ แสนโพธิ์ จาก KULTX จังหวัดขอนแก่น มองว่าในพื้นที่กรุงเทพฯ นั้นพื้นที่ของศิลปะมันกระจุกตัวอยู่เยอะมาก ที่สำคัญคือคนเสพงานศิลปะก็กระจุกตัวอยู่ในพื้นที่ศูนย์กลางเช่นเดียวกัน นี่เป็นความไม่ปกติของวงการศิลปะในท้องถิ่นที่ไม่สามารถแสดงออกได้อย่างเท่าเทียมกัน ด้วยปัจจัยหลาย ๆ อย่างที่มีไม่เท่ากันในสองพื้นที่


(พิชิต สอนก้อม, อาทิตยาภรณ์ แสนโพธิ์)

“ในความรู้สึกเรา เรามองเห็นความไม่เท่าเทียมกันในพื้นที่ของเราซึ่งเป็นพื้นที่ชนบทที่แตกต่างจากกรุงเทพฯ ทำให้เรามองเห็นความไม่ปกติในศิลปะในพื้นที่ของเราที่ไม่สามารถแสดงออกได้เท่าที่ควร เพราะคนในพื้นที่ก็ยังต้องรับผิดชอบหน้าที่การงานของตัวเอง แต่ในพื้นที่ศูนย์กลางมีการสนับสนุนด้านงบประมาณ มีมหาวิทยาลัยที่ช่วยส่งเสริมในการเป็นศิลปิน ซึ่งเรามองว่าเป็นความไม่เท่าเทียมกันทางด้านสถานภาพ ทางด้านพื้นที่ กลายเป็นประเด็นที่เราจะต่อต้านพื้นที่จะศูนย์กลางไปเลย งานศิลปะที่เราทำ พยายาม Perform ออกมาในลักษณะนี้” อาทิตยาภรณ์กล่าว

เมื่อพูดถึงโอกาสของศิลปิน อวิกา และ สุพิชญา เลือกกลับมาทบทวนคำนิยามของการเป็น ‘ศิลปิน’ และความกว้างขวางของงานศิลปะ ศิลปะในโรงเรียน หรือศิลปะที่ศิลปินไปเรียนจากศูนย์กลาง หรือศิลปินในท้องถิ่น ต่างก็เป็นงานศิลปะทั้งสิ้น พวกเธอจึงมองว่าโอกาสสำหรับศิลปินภูธรนั้นมีอยู่จริง แต่อาจจะต้องใช้เวลามากกว่าศิลปินในเมืองหลวงสักหน่อย


(สุพิชญา ขุนชำนิ และ อวิกา สมัครสมาน)

“ศิลปินเป็นคำนิยามที่พูดยากเพราะคนที่ทำงานศิลปะก็มีเยอะมาก นักเรียน ครู คนทั่วไปที่ชอบวาดรูป อย่างในต่างจังหวัดก็มีคนอยู่หลากหลายมาก” สุพิชญากล่าว

ก้าวให้ไกลกว่าอาณาบริเวณเดิม

อนุวัฒน์ อภิมุขมงคล เล่าให้เราฟังว่าเขาและสมาชิกภูธรคอนเนคหลายคนก็รู้จักกันมาก่อนแล้ว ผ่านกิจกรรมศิลปะต่าง ๆ ที่ผ่านมาของแต่ละพื้นที่ ตนมีโอกาสได้ไปขอนแก่น หรือเพื่อนที่ขอนแก่นมาแสดงงานที่ปัตตานี ทำให้เกิดการพูดคุยที่ทำเกิดเป็นไอเดีย และทำให้เห็นผลกระทบร่วมกันจากการเป็นศิลปินภูธร

“เราก็รู้สึกว่าถ้าเราจะพูดถึงความเป็นภูธร ถ้าเราจะต่อสู้กับความเป็นศูนย์กลางนิยม มันจะต้องทำยังไง เลยเกิดเป็นการรวมกลุ่มกัน การก่อตั้งภูธรคอนเน็คก็การทำให้ภาพชัดเจนขึ้นว่าเราจะร่วมมือกันอย่างไรเพื่อขับเคลื่อนความเป็นศิลปะที่อยู่ตามภูมิภาคต่าง ๆ”

“มันเหมือนการปลูกดอกไม้ เป้าหมายของภูธรคอนเนคคือการไปปลูกดอกไม้ในพื้นที่ต่าง ๆ ”

อวิกา มองว่าทิศทางปัจจุบันของภูธรคอนเนค ถ้าจะให้ชัดเจนในแนวทางกระบวนการเลยอาจจะยาก แต่เธอก็รับรู้แล้วว่าทุกคนมีเรื่องที่อยากจะทำ เกิดเป็นการแบ่งปันกันในปัจจัยต่าง ๆ กลายเป็นจุดที่ถูกใช้เพื่อหาแนวทางไปต่อ หาวิธีการที่เหมาะกับการรวมกลุ่ม ซึ่งเป็นการบ้านของแต่ละคนแล้วว่าจะมองเห็นอะไรจากจุดนี้ และจะเอาไปปรับใช้กับตัวเองอย่างไร แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนสำหรับ อวิกา คือการใช้งานศิลปะเพื่อสร้างอำนาจต่อรองเพื่อศิลปินภูธร

“เราอยากพูดถึงการสร้างพื้นที่เพิ่มเติมเพื่อมาทำงานด้วยกัน เราอยากจะสร้างอำนาจต่อรองเพื่อเข้าถึงทุน ที่เขาบอกกันว่าเราเขาถึงทุนได้น้อย มันเป็นเพราะอะไร ? เราจะทำยังไงให้ทุนเห็นว่าเขาควรจะซัพพอร์ตสิ่งนี้อีก คิดว่าการรวมตัวกันจะสร้างความเปลี่ยนแปลง สร้างแรงคานให้เขาหันมามองว่ายังมีคนที่สร้างงานศิลปะในรูปแบบอื่นนอกจากที่เขาเคยให้ทุนมา” อวิกากล่าว

สุพิชญา เสริมอีกหนึ่งมิติในการร่วมมือกันของภูธรคอนเนค ว่าการทำงานขับเคลื่อนโดยไม่รอการสนับสนุนจากรัฐ นั่นคือการแบ่งปัน ไม่ว่าจะประสบการณ์ ทักษะ หรือเวลา สุพิชญา เชื่อว่าศิลปินที่มาร่วมงานกันในภูธรคอนเนคก็ไม่สามารถลงแรงทั้งสามอย่างพร้อมกันได้ กลายเป็นโจทย์ที่จะต้องกลับไปดูว่าแต่ละคนจะมีวิธีปรับใช้ยังไงให้กลุ่มมันขับเคลื่อนแบบนี้ต่อไป ทำงานต่อไปได้โดยเข้าใจรัฐ และรัฐเข้าใจพวกเธอ

“เรารู้สึกว่าการที่บ้านเขาสามารถ Host กลุ่มคนที่สนใจเรื่องเดียวกัน กระจายความรับรู้ออกไปเรื่อย ๆ มันเป็นข้อดีที่ทำให้คนเห็นภาพได้ถี่ขึ้น เห็นความเป็นไปได้ที่จะสร้างโมเดลแบบนั้นในหลาย ๆ ที่ อาจจะไม่ได้ทำในรูปแบบเดียวกัน แต่มันก็จะไม่ใช่การรวมตัวแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว”



สามารถติดตามรายละเอียดและความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ต่อได้ที่ https://www.facebook.com/events/1332813964294235/?ref=newsfeed

และ OPEN WORD: เปิดคำ Announcement Exhibition for “ Pootorn Connect”Decentralized Autonomous Art Operation Network. สามารถเข้าดูได้จนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ที่ Kai Kaew Lamphun ไก่แก้วลำพูน

บรรณาธิการสำนักข่าว Lanner สนใจหลายเรื่องโดยเฉพาะเรื่องชาวบ้าน : )

วัชรพล นาคเกษม
วัชรพล นาคเกษม
บรรณาธิการสำนักข่าว Lanner สนใจหลายเรื่องโดยเฉพาะเรื่องชาวบ้าน : )

มาตรการลงทะเบียนซิมด้วย Liveness Detection ถูกตั้งคำถาม กระทบคนไร้สัญชาติ–แรงงานข้ามชาติ ‘ตี่ตาง’ ชี้จำกัดสิทธิสื่อสาร แก้ปัญหาไม่ตรงจุด

จากกรณีที่ สำนักงานคณะกรรมการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ เเละกิจการโทรคมนาคมเเห่งชาติ (กสทช.) ประกาศใช้เทคโนโลยี Liveness Detection เมื่อวันที่...

พ่อหมอกฤตไท ร้องหยุดดองร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด ด้านสภาลมหายใจ เเถลงไม่ควรเอื้อนายทุน

หลังจากเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2568 สภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.บริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาดฯ ในวาระสามด้วยคะแนนเห็นด้วย 309 เสียง...

ให้คะแนนรัฐบาลอนุทิน ‘สอบตกยกแผง’ แก้ปัญหาน้ำกก–สายรวก–โขงปนเปื้อนโลหะหนัก จากเหมืองแร่ในรัฐฉาน

สืบสกุล กิจนุกร นักวิชาการด้านการพัฒนาระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ประเมินการทำงานของรัฐบาลไทยในการรับมือปัญหามลพิษข้ามพรมแดนจากเหมืองแร่ในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา ระบุว่า ‘สอบตกยกแผง’ พร้อมแจกแจงการประเมินเป็นรายบุคคลต่อผู้นำฝ่ายบริหารสามตำแหน่ง นายกฯ...

Lanner Joy: LOLA Gallery DRIP แรงบันดาลใจจากความฝันเล็กๆ สู่รากกาแฟห้วยตองก๊อที่เติบโตอย่างแข็งแรง

เรื่องและภาพ: สุทธิกานต์ วงศ์ไชย ยามบ่ายต้นเดือนพฤศจิกายนที่ลานกว้างของโครงการจริงใจมาร์เก็ต เชียงใหม่ เสียงแจ๊สลอยแผ่วเบาเคล้ากลิ่นกาแฟที่เพิ่งบดใหม่ เทศกาล Jazz Arabica กลับมาอีกครั้งในปี...