เมษายน 24, 2024

    ศาลอาญานัดสืบพยานนัดที่สาม คดีอุ้มฆ่านักสิทธิมนุษยชนใจแผ่นดิน ‘บิลลี่’ พอละจี รักจงเจริญ

    Share

    ศาลอาญานัดสืบพยานนัดที่สาม คดีอุ้มฆ่านักสิทธิมนุษยชนบางกลอย-ใจแผ่นดิน ‘บิลลี่’ พอละจี รักจงเจริญ ไต่สวนพยาน 3 ปากในวันที่ 17 กรกฎาคม 2566.

    มูลนิธิผสานวัฒนธรรม หรือ Cross Cultural Foundation (CrCF) รายงานว่าเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นัดสืบพยาน 3 ปากสำคัญตามที่ได้นัดไว้ โดยนี่เป็นการนัดสืบพยานครั้งที่สอง และมีการสืบพยานไปแล้วทั้งหมด 6 ปากนับจากการสืบพยานครังแรกเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2566 พร้อมทั้งนัดสืบพยานครั้งถัดไป 

    ​คดีนี้สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 17 เม.ย. 2557 นายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ นักปกป้องสิทธิมนุษยชนกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง “บางกลอย-ใจแผ่นดิน” ได้ถูกจับกุมและถูกเอาตัวไปโดยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ในขณะนั้น กับพวก หลังจากนั้นไม่มีใครทราบชะตากรรมของบิลลี่อีกเลย จนกระทั่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และอัยการ ได้ร่วมกันติดตามสอบสวนคดีดังกล่าวจนได้พยานหลักฐานเพิ่มเติมอันควรเชื่อได้ว่ากลุ่มเจ้าหน้าที่อุทยาน ฯ ที่จับกุมบิลลี่ไปนั้น ได้ร่วมกันกระทำผิดต่อบิลลี่ คดีนี้นัดไต่สวนพยานโจทก์และจำเลยในคดีทั้งหมด 10 นัด แบ่งเป็นนัดไต่สวนพยานโจทก์ 23 ปาก ในวันที่ 24 เม.ย. 2566, 22 พ.ค. 2566 สืบพยานไปแล้วทั้งหมด 6 ปาก และจะมีการสืบพยานในนัดหน้า วันที่ 17 และ 24-27 ก.ค. 2566 รวม 7 นัด และนัดไต่สวนพยานจำเลย 9 ปาก ในวันที่ 28 และ 30-31 ส.ค. 2566 รวม 3 นัด ทั้งนี้ หากต่อมาศาลเห็นว่ามีความจำเป็นต้องสืบพยานเพิ่มเติมจะก็จะเรียกให้มาเป็นพยานภายหลังได้อีกด้วย

    การสืบพยานในครั้งนี้ พิณภา พฤกษาพรรณ ในฐานะผู้แทนโดยชอบด้วยกฎหมายของโจทก์ร่วมทั้งสอง (บุตรของบิลลี่) และองค์กรระหว่างประเทศ ได้เดินทางมาร่วมรับฟังการสืบพยานคดีดังกล่าวจนเสร็จสิ้นกระบวนการศาลในวันนี้อีกด้วย พิณภาฯ ได้เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 18 พค.ที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของดีเอสไอได้เดินทางไปพบพร้อมกับแจ้งว่า “ทางดีเอสไอ (DSI) เห็นว่าตนไม่ได้เป็นพยานปากสำคัญในคดีฆาตกรรมบิลลี่ จึงมาแจ้งว่าจะสิ้นสุดการดูแลและคุ้มครองพยานแล้ว ขณะที่จำเลย 1-4 ในคดีก็ยังรับราชการอยู่ทุกคน และตนอยากมาศาลทุกนัดเพื่อฟังการไต่สวนซึ่งจะมีอีก 8 นัด เพื่อติดตามการสืบพยานและทวงถามถึงความยุติธรรมกับศาลให้ถึงที่สุด โดยตนจะเขียนหนังสือขอความเป็นธรรมเรื่องนี้กับอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษต่อไป”

    โดยทาง CrCF ก็ได้เชิญชวนสื่อมวลชนและผู้สนใจร่วมติดตามและเข้าร่วมสังเกตการณ์การสืบพยานนัดที่สองนี้ตามวันและเวลาข้างต้น เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการยุติธรรมจะอำนวยความยุติธรรมให้แก่ครอบครัวของนายบิลลี่ และชุมชนกะเหรี่ยงบางกลอย-ใจแผ่นดินอย่างเต็มที่และเป็นธรรม นำเจ้าหน้าที่ที่กระทำผิดมารับโทษตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด ทั้งยุติวัฒนธรรมลอยนวลพ้นผิดได้อย่างเป็นจริง

    Related

    รอนานบั่นทอนปอด ศาลปกครองสูงสุดรับอุทธรณ์คดีฝุ่นภาคเหนือของคกก.สิ่งแวดล้อมแห่งชาติ 

    ล่าสุดวันนี้ (24 เมษายน 2567) ทีมทนายความมีความคืบหน้าสำหรับความคดีฝุ่น PM2.5 ภาคเหนือ โดยศาลปกครองสูงสุดรับอุทธรณ์คดีฝุ่นภาคเหนือของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ และมีคำสั่งให้ประชาชนผู้ฟ้องคดีทำคำแก้อุทธรณ์คดีตามที่คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติได้ยื่นอุทธรณ์คดีฝุ่นภาคเหนือภายใน...

    ‘วาระเชียงใหม่’ เปิดเวทีสุขภาพ ยกระดับ รพ.สต. ดันระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า

    เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2567 สมัชชาสุขภาพจังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) สำนักงานวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.)...

    วิกฤตฝุ่น PM2.5 เมื่อรวมศูนย์แบบเดิมไม่เท่าทัน จะได้ไหม ‘กระจายอำนาจ’

    เรื่อง: วิชชากร นวลฝั้น กระแสวิพากษ์วิจารณ์ที่กำลังร้อนแรงล่าสุดในขณะนี้คงหนี้ไม่พ้น กรณีที่นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นำแถลงข่าวการปฏิบัติการทางการแพทย์และบริการสาธารณสุข เพื่อรักษาผู้ป่วยทางเดินหายใจและกลุ่มเปราะบาง รวมทั้งมาตรการดูแลประชาชนและนักท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่...