น.ศ. ม.นอร์ทเชียงใหม่ ถูก มหา’ลัยเรียกพบ หลัง หนุน 3 ข้อ “ตะวัน-แบม” เจ้าตัวสวน “มหา’ลัย ไม่ควรแทรกแซง นศ.”

27 ม.ค. 2566

จากกรณีเฟซบุ๊กเพจ ‘สโมสรนักศึกษามหาลัยนอร์ทเชียงใหม่’ โพสต์ข้อความสนับสนุน 3 ข้อเรียกร้อง “ตะวัน-แบม” และ โพสต์ภาพป้ายมหาวิทยาลัยนอร์ทเชียงใหม่ ที่มีภาพคนชูป้ายผ้าข้อความว่า “เพื่อนเรากำลังจะตาย” บริเวณหน้าป้ายมหาวิทยาลัย


ต่อมาทางมหาวิทยาลัยนอร์ทได้โพสต์ข้อความผ่านเพจ ‘มหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่’ ว่า เพจดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับทางมหาวิทยาลัยและทางมหาวิทยาลัยไม่อนุญาตให้นักศึกษาใช้ชื่อ ‘สโมสรนักศึกษามหาลัยนอร์ทเชียงใหม่’ พร้อมเรียกนักศึกษาคณะรัฐประศาสนศาสตรบัณฑิต ที่เป็นแอดมินเพจ ‘สโมสรนักศึกษามหาลัยนอร์ทเชียงใหม่’ เข้าพบ

ปาย (นามสมมติ) นักศึกษาคณะรัฐประศาสนศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า วันนี้ (27 ม.ค. 2566) ตนได้ถูกคณะบดีคณะรัฐประศาสนศาสตรบัณฑิตเรียกพบหลังแสดงออกทางการเมือง สนับสนุน 3 ข้อเรียกร้อง “ตะวัน-แบม” และยกเลิก ม.112 ในเฟซบุ๊กเพจ โดยก่อนหน้านี้ 1 วัน (26 ม.ค. 2566) ทางสำนักกิจการนักศึกษาได้โทรมาหาตนและสั่งให้เปลี่ยนชื่อเพจ โดยไม่อนุญาตให้นักศึกษาใช้ชื่อมหาวิทยาลัยในการแสดงออกทางการเมือง เนื่องจากกังวลว่าจะเสียชื่อเสียงต่อมหาวิทยาลัย รวมถึงสั่งให้ลบโพสต์ดังกล่าวออกจากเฟซบุ๊ก 


ปาย ให้สัมภาษณ์ต่อว่า ตนรู้สึกไม่พอใจที่มหาวิทยาลัยออกคำสั่งเช่นนี้ เนื่องจากเป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพและแทรกแซงการตัดสินใจของนักศึกษาโดยอ้างชื่อเสียงของมหาวิทยาลัย ทั้งนี้ตนยืนยันว่าจะไม่เปลี่ยนชื่อเพจหรือลบโพสต์ดังกล่าว เนื่องจากตนเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัย จึงมีสิทธิใช้ชื่อของมหาวิทยาลัยต่อไป รวมถึงการกระทำดังกล่าวเป็นสิทธิเสรีภาพของนักศึกษาที่พึงมี 

“อยากให้ มหา’ลัย ไม่จำกัดและแทรกแซงสิทธิของนักศึกษา เพราะชื่อมันเป็นองค์กรนักศึกษาหรือสโมสรนักศึกษา มันต้องเป็นนักศึกษาคิดเอง ไม่ควรถูกอาจารย์หรือบุคลากรคนไหนมาแทรกแซงการตัดสินใจของนักศึกษาในการเรียกร้อง” ปาย กล่าว

ทั้งนี้ ‘ปาย’ ให้ความเห็นต่อกรณีที่ “ตะวัน-แบม” หรือนักกิจกรรมที่ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองแล้วถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำทันทีโดยไม่ผ่านกระบวนการยุติธรรม หรือขาดสิทธิในการประกันตัวผู้ต้องหาว่า เป็นความไม่ยุติธรรมและไม่ถูกต้อง

“มันไม่ถูกต้อง เขายังไม่ได้ถูกตัดสินอะไรแต่กลับต้องเข้าไปอยู่ในคุกเลย แสดงว่าความยุติธรรมของกฎหมายในไทยมันไม่น่าเชื่อถือ ไม่น่าเคารพอีกแล้ว” ปายกล่าว

ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากผู้เขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง