พฤษภาคม 17, 2024

    ไกล ศูนย์ กลาง: มนต์รักนักพากย์ (2566) ภาพแทนการเข้าถึงความบันเทิงของชาวบ้านในอดีต

    Share

    เรื่อง:  ป.ละม้ายสัน

    มนต์รักนักพากย์ เป็นหนังไทยที่ฉายผ่านแพลตฟอร์มสตีมมิ่งภาพยนตร์อย่าง Netflix เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ภาพยนตร์นี้มีฉากแบบย้อนยุคและสีสันสวยงามชวนหลงใหลกับเรื่องราวในประวัติศาสตร์ภาพยนต์ไทยในยุคก่อน หนังเรื่อง มนต์รักนักพากย์ กำกับโดย นนทรีย์ นิมิบุตร ซึ่งจะพาเราย้อนยุคไปดูอุตสาหกรรมของภาพยนต์ไทยในอดีต ก่อนหน้าที่จะมีโรงภาพยนตร์ในปัจจุบัน ซึ่งหนังเรื่องนี้เป็นการเล่าเรื่องชีวิตของหนังขายยา และเป็นสีสันความบันเทิงของคนในสังคมไทยในอดีต

    บทความนี้ไม่ได้มีเนื้อหาที่จะเล่าทุกประเด็นในเรื่อง มนต์รักนักพากย์ แต่เป็นการหยิบยกบางประเด็นที่น่าสนใจ เกี่ยวกับชีวิตของชาวบ้านในอดีตผ่านการรับชมสื่อบันเทิง และดึงเอาบริบทในประวัติศาสตร์ไทย ช่วงทศวรรษที่ 2500-2510 ที่อยู่ในเนื้อเรื่องของหนังเรื่องนี้เพื่ออธิบายเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงในเรื่องของการรับชมมหรสพของผู้คนในภาคกลางและภาคเหนือตอนล่างในปัจจุบัน ซึ่งเป็นภาพตัวแทนของการรับชมภาพยนตร์ในอดีตที่มนต์รักนักพากย์ พยายามสร้างขึ้นมา

    มนต์รักนักพากย์ เป็นภาพยนต์ที่มีคนเขียนบทวิจารณ์เป็นจำนวนมาก ซึ่งงานการวิจารณ์ภาพยนตร์เรื่องนี้ส่วนใหญ่ มักอธิบายความเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ผ่านการออกฉายหนังกลางแปลง หรือประวัติศาสตร์ของหนังขายยา การเติบโตของตลาดภาพยนต์ และการรำลึกถึงพระเอกขวัญใจตลอดกาลอย่าง มิตร ชัยบัญชา ซึ่งการพูดถึง มิตร ชัยบัญชา เป็นฉากสำคัญของหนังเรื่องนี้และดูจะเป็นแกนหลักของเรื่อง




    นอกจากนี้ยังมี งานของวิวัฒน์ (2566) ได้วิเคราะห์ถึงสุนทรียศาสตร์ของการชมหนังล้อมผ้า ซึ่งผู้เขียนเองก็พยายามจะวิเคราะห์ประเด็นนี้และเพิ่มเกี่ยวกับการรับชมมหรสพของชาวบ้านในอดีต เนื่องจาก ยังไม่มีผู้วิจารณ์ภาพยนต์เรื่องนี้คนไหนอธิบายถึงความเปลี่ยนแปลงด้านการรับชมมหรสพในลักษณะของชาวบ้านเลย การวิจารณ์ภาพยนตร์ในบทความชิ้นนี้จึงมุ้งเน้นไปที่การสร้างเห็นชีวิตของคนต่างจังหวัดในแง่ของการรับชมสื่อบันเทิง

    ฉากของภาพยนตร์เป็นการฉายให้เห็นถึงการเดินทางไปจัดฉายหนังกลางแปลงตามงานประเพณีในจังหวัดต่างๆ ในภาคกลางและภาคเหนือตอนล่างในปัจจุบัน ทั้งจังหวัดลพบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา นครสวรรค์ พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เป็นต้น ซึ่งเป็นสถานที่ที่หนังเรื่องนี้ได้การเดินทางไปฉายภาพยนตร์หรือหนังกลางแปลงไปยังสถานที่ต่างๆ ทำให้ได้เห็นประเพณีของต่างจังหวัด และการปราบปรามคอมมิวนิสต์โดยรัฐ

    โดยสิ่งที่เป็นตัวเชื่อมระหว่างสื่อบันเทิงอย่างหนังกลางแปลงกับการเข้าถึงชาวบ้านคือการเข้ามาของถนน จึงทำให้เห็นความสัมพันธ์ของพื้นที่เมืองกับต่างจังหวัดได้ชัดขึ้น เราจะเห็นความสัมพันธ์ระหว่างชนบทกับเมือง การเดินทางไปฉายหนังขายยาตามต่างจังหวัดในบริบทสงครามเย็น

    รถฉายหนังกลางแปลงได้เร่ไปตามถนนหนทางที่รัฐได้สร้างขึ้น ซึ่งจะเห็นได้ว่าถนนนั้นถูกสร้างขึ้นมาไม่ใช่เพื่อการกระจายอำนาจ แต่สร้างเพื่อการขนส่งสินค้า อาวุธ และเสบียงสำหรับขนส่งทหารอเมริกันที่มาใช้ในประเทศไทยและเป็นฐานทัพในการต่อสู้ในสงครามเวียดนาม และเงินผ่านแผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ ถนนมิตรภาพจึงถูกสร้างขึ้นและเอเชียสายอื่นๆ ดังนั้น รถฉายหนังกลางแปลงของหัวหน้ามานิตย์และเครื่องฉายหนังฉบับพกพา จึงเดินทางไปยังที่ต่างๆ เพื่อฉายหนังได้

    การเข้ามาของภาพยนตร์ในเมืองไทยนั้น เกิดขึ้นในยุคสมัยที่ศิลปะการแสดงทุกด้านของประชาชนกำลังคลี่คลายขยายตัวอย่างกว้างขวาง ลิเก จำอวด ลำตัด หนังตะลุง ละครร้อง ฯลฯ ได้ก่อรูปหรือขยายความนิยมในระยะเวลาไม่นานก่อนหน้าการเข้ามาของภาพยนต์

    อย่างไรก็ดี การเข้ามาของหนังกลางแปลงก็ไม่ได้ทำให้ลิเก หรือสื่อบันเทิงดั้งเดิมลดน้อยถอยลงไป เพียงแต่เป็นการเข้าถึงสื่อบันเทิงของชาวบ้านมากขึ้น โดยการเข้ามาของหนังกลางแปลงในชุมชนหมู่บ้านเล็ก ๆ ผ่านการจัดมหรสพหลายหลายอย่าง อาทิ งานเฉลิมฉลองทางศาสนา งานบวช งานศพ และงานรื่นเริงที่จัดโดยคนท้องถิ่น มนต์รักนักพากย์จึงฉายให้เห็นชีวิตของหนังขายยา หนังล้อมผ้า หนังจ้างวัด ได้เป็นอย่างดี

    นอกจากนั้น มนต์รักนักพากย์ ยังฉายเห็นถึงฉากการเมืองไทยอย่างเบาบาง ผ่านการผจญภัยระหว่างเสียงปืนกับทหารที่ปะทะอยู่กับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย และจัดผัดจับพลูไปฉายให้กับเหล่าทหารในค่ายอย่างงงๆ รวมไปถึงการฉายหนังให้กับกลุ่มชาติพันธุ์อีกด้วยในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างอีกด้วย ซึ่งพื้นที่นี้ก็มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์อยู่สูง

    การพากย์หนังซึ่งเป็นจุดเด่นในเรื่องนี้เป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของหนังขายยา เนื่องจากผู้ชมสามารถเข้าถึงอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครและจิตรวิญญาณของภาพยนต์ได้ด้วยความสามารถและการถ่ายทอดของนักพากย์ โดย นิธิ เอียวศรีวงศ์ (2538) วิเคราะห์เกี่ยวกับผู้ชมและผู้แสดงไว้ว่า ทั้งสองสิ่งนี้มิได้ตัดขาดกันเลย แต่สื่อสารคมนาคมถึงกันอยู่ตลอดเวลาของการแสดงในสภาพเช่นนี้บทที่ตายตัว เช่น การแสดงของฝรั่งหรือการแสดงของราชสำนักไทยในบางตอน ซึ่งตัดความสัมพันธ์ระหว่างผู้แสดงและคนดูออกจากกันโดยเด็ดขาด

    ดังนั้น เราจะเห็นได้ว่าการดูหนังเป็นกิจกรรมที่มาควบคู่กับภาวะสมัยใหม่ (modernity) ที่ผสมผสานกับวัฒนธรรมและมหรสพท้องถิ่นที่มีอยู่แต่เดิม ซึ่งมีมาก่อนวัฒนธรรมการดูหนังแบบเงียบๆไม่ส่งเสียงดัง

    ความสำคัญและชีวิตของการดูหนังกลางแปลงของชาวบ้านอีกอย่างหนึ่งคือ ไม่ตัดขาดจากความเป็นจริง ซี่งภาพยนตร์เรื่องนี้ทำได้อย่างดี กล่าวคือ การดูหนังเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่หน้าโรง มิใช่เพียงบนจอเท่านั้น ยิ่งในชนบทห่างไกลมากๆ ซึ่งจะมีหนังกลางแปลงไปฉายเพียงปีละไม่กี่ครั้ง การดูหนังยิ่งเป็นอุบัติการณ์ทางสังคมที่สำคัญยิ่งของชุมชนไปอีก ซึ่งฉากฉายหนังฉากหนึ่งใน มนต์รักนักพากย์ ที่ต้องรำลึกการจากไปของมิตร ชัยบัญชา เป็นฉากที่ทำให้เห็นสิ่งที่กล่าวมาเป็นอย่างดี

    ถึงที่สุดแล้ว งานชิ้นนี้เป็นเพียงการบรรยายภาพความเปลี่ยนแปลงการรับชมมหรสพของชาวบ้าน ที่ภาพยนตร์เรื่อง มนต์รักนักพากย์ พยายามจะเล่าเรื่องให้เห็นชีวิตของหนังกลางแปลงและจำลองภาพในอดีตขึ้นมา หนังเรื่องนี้จึงให้ภาพ ให้ชีวิตของชาวบ้านในการรับชมสื่อบันเทิงได้เป็นอย่างดี แม้จะเป็นเพียงแค่ภาพยนต์เพียงเรื่องหนึ่งก็ตาม


    อ้างอิง

    Related

    “ชาติพันธุ์ก็คือคน” ความฝันกะเบอะดิน

    เรื่อง: นลินี ค้ากำยาน ภาพ: ธันยชนก อินทะรังษี “เราเชื่อว่าถ้าชุมชนเข้มแข็ง มีความฝันร่วมกันและยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่เอาเหมือง เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้อยู่แล้วเพราะเขาไม่ใช่เจ้าของพื้นที่ เราโดนพูดอยู่เสมอว่าเราสู้เขาไม่ได้หรอก เขาเป็นคนใหญ่คนโต...

    ชุมชนริมทางรถไฟบุญร่มไทร กระจกสะท้อนความเลื่อมล้ำผ่านความเป็นเมือง

    เรื่องและภาพ: ธันยชนก อินทะรังษี ท่ามกลางตึกสูงตั้งตะหง่าน และความวุ่นวายในเมืองหลวง  การขยายตัวของเมืองและการพัฒนาเมือง ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจมากมาย แต่นั่นก็ตามมาซึ่งปัญหาทางด้านสังคมเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะความเลื่อมล้ำทางรายได้ ความเป็นอยู่...

    อยู่-ระหว่าง-เหนือ-ล่าง: ทำไมผมต้องข้ามจังหวัด​เพื่อไปดูหนัง และจะเป็นไปได้ไหมที่ผมจะได้เห็นโรงหนังอิสระทั่วไทย

    เรื่อง: ปองภพ ดั่นสมานฉันท์ชัย รถยนต์​ก็​ยัง​ไม่มี​ รถเมล์ก็​มา​ไม่ถึง​ เป็นเนื้อเพลงท่อนหนึ่งจากเพลงสาวดอย 4x4 ที่ขับร้องโดยคาราบาว เล่าถึงความยากลำบากของชีวิตที่อยู่ห่างไกลความเจริญ ผ่านการไม่มีรถส่วนตัวและไม่มีขนส่งสาธารณะ​ที่เข้าถึงได้ง่าย...