7 ข้อโต้แย้งประเด็นข้อเสนอบริษัทฯ ตามหลักกฎหมาย หลัง บริษัทฯยื่นข้อเสนอให้กับชาวบ้านกะเบอดินอีกครั้ง​

10/06/2022

เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2565 บริษัทฯ ได้ยื่นขอเสนอให้กับชาวบ้านกะเบอดินอีกครั้ง หลังกรณีชาวบ้านกะเบอะดินและชาวอมก๋อย 600 กว่าคน ฟ้องศาลปกครองเชียงใหม่เพิกถอนรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA คดีหมายเลขดำที่ 1/2565​

บทสนทนาของบริษัทฯ และผู้นำท้องที่ท้องถิ่นท่านหนึ่ง​
– จะนำอีไอเอมาปรับปรุงใหม่โดยให้มหาวิทยาลัยนเรศวรทำและลงพื้นที่จริงทุกขั้นตอนให้ชุมชนได้รับรู้และมีส่วนร่วม​
– จะขออนุญาตหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมป่าไม้ในการขนส่งเส้นทางใหม่ที่ไม่กระทบต่อชุมชนทางผ่าน ​
– ระหว่างที่ขุดเหมืองจะแบ่งให้องค์การบริหารส่วนตำบลอมก๋อย 15% ในการบริหารจัดสรรงบประมาณในพื้นที่อื่น และให้ชุมชนกะเบอะดิน 10% เป็นกองทุนหมู่บ้าน​
– หลังจากทำเหมืองเสร็จ คาดว่าจะใช้เวลา 5 ปีในการทำ เสร็จแล้วจะฟื้นฟู ทำบ่อกักเก็บน้ำ ทำรีสอร์ต สถานที่ท่องเที่ยว ฯลฯ ปลูกผักออร์เกนิค ผักอินทรีย์เพื่อสุขภาพของชุมชน​
– จะพบปะหารือกับเยาวชนที่ลุกขึ้นมาต่อสู้ เพื่อให้รับทราบข้อเสนอทั้งหมด (เขาไม่ได้ผิดที่ออกมาคัดค้าน)​
– ตอนนี้ทางบริษัทฯ เสียเงินไปมากแล้ว กว่า 20 ปีที่ตั้งใจจะสร้าง และฟ้องอุตสาหกรรม 3 ปี ยังไม่มีวี่แววอะไร ตอนนี้ต้องการได้ใบประทานบัตร เพื่อจัดกระบวนการและขั้นตอนต่อไป ​
.​
ข้อเสนอต่าง ๆ ที่ทางบริษัทเสนอมาชาวบ้านกะเบอะดินและชุมชนทางผ่านไม่ได้ต้องการ เพราะที่มีอยู่ทุกวันนี้ดีอยู่แล้ว เช่น วิถีชีวิต วัฒนธรรม ที่ดินทำกิน ยังยืนยันที่จะรักษาทรัพยากรที่ดินทำกินต่อไป​

และเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2565 ทางเพจ กะเบอะดิน ดินแดนมหัศจรรย์ ได้รายงานความคืบหน้าอีกครั้งดังนี้ 7 ข้อโต้แย้งประเด็นข้อเสนอบริษัทฯ ตามหลักกฏหมาย โดยทีมทนายความ​

1.อีไอเอจะทำใหม่ต้องถอนหรือขอยกเลิกอีไอเอเดิมจาก สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.)และกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.)​

2.หลังจากถอนอีไอเอแล้วต้องให้ สผ.และกพร.มีคำสั่งให้อนุญาตก่อน​

3.การขอกรมป่าไม้เปลี่ยนเส้นทางขนส่ง จะต้องขอถอนคำขออนุญาตเดิม และเริ่มทำการขออนุญาตใหม่ ทำประชาคมใหม่ ขอมติสภาอบต.ใหม่​

4.การแบ่งเปอร์เซ็นต์ให้อบต. และชุมชน แบ่งจากรายได้ หรือกำไร หรือแบ่งจากมูลค่าของถ่านหิน มีอะไรเป็นหลักประกันในการแบ่งรายได้​

5.เยาวชนเป็นส่วนหนึ่งการคัดค้าน ยังมีผู้ฟ้องคดีอีก 50 คน ผู้สนับสนุน 600 คน ไม่ว่ายังไงก็ต้องฟังเสียงของทุกคน​

6.คดีปกครองไม่มีจำเลย มีแต่ผู้ถูกฟ้องคดี และเราไม่ได้ฟ้องบริษัทฯ แต่ศาลเรียกให้บริษัทเข้ามาเป็นผู้ถูกฟ้องคดีร่วมกับหน่วยงานรัฐ เป็นคำสั่งของศาล​

7.ผู้ที่มีความสำคัญที่สุดในการต่อสู้ครั้งนี้คือชาวบ้านทุกคน ถ้าไม่มีชาวบ้านก็ไม่มีการต่อสู้ เราคงเดินมาถึงวันนี้ไม่ได้​

ความถูกต้องและแม่นยำที่สุดคือหลักความเป็นจริงตามกฎหมาย มิใช่ข้อเสนอที่เป็นเท็จเพียงเพราะต้องการถ่านหินการต่อสู้ครั้งนี้ถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของชุมชนและชาวอมก๋อยทุกคน เชื่อมั่นพลังมวลชน จุดยืนเดียวของพวกเราคือ “ยุติเหมืองแร่ถ่านหินอมก๋อย”​
ภาพ: วรรณา แต้มทอง

#กะเบอะดินดินแดนมหัศจรรย์​
#ไม่เอาเหมืองแร่ถ่านหินอมก๋อย​
#SaveOmkoi​
#NoCoalMine​
#แมแฮแบ​
#Lanner

ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากผู้เขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง