https://altair.one/https://kmail.campusfrance.org/https://www.mh-kovo.cz/https://lefort82.com/
เชียงใหม่ชื่นมื่น 6 คู่รัก จดทะเบียน หลัง ‘สมรสเท่าเทียม’ มีผลบังคับใช้  - Lanner

เชียงใหม่ชื่นมื่น 6 คู่รัก จดทะเบียน หลัง ‘สมรสเท่าเทียม’ มีผลบังคับใช้ 

23 มกราคม 2568 กลุ่มคู่รัก LGBTQ+ ในจังหวัดเชียงใหม่ เดินทางมาร่วมจดทะเบียนสมรสได้เป็นวันแรก ณ ที่ว่าการอำเภอเมืองเชียงใหม่ กันอย่างคึกคักและชื่นมื่น หลังจากที่ ‘พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม’ หรือ ‘กฎหมายสมรสเท่าเทียม’ ที่เริ่มมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการในวันนี้

โดยกลุ่ม Chiang Mai Pride ได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่าการจดทะเบียนสมรสในวันนี้เป็นการแสดงออกถึงชัยชนะหลังการต่อสู้เพื่อเรียกร้องมาอย่างยาวนาน ซึ่งบรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความครึกครื้น โดยมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานภาครัฐจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกล่าวแสดงความยินดี พร้อมกับอ่านแถลงการณ์ เพื่อเฉลิมฉลองการสมรสเท่าเทียม โดยมีคู่รักที่มาร่วมจดทะเบียน 6 คู่ด้วยกัน โดยทุกคู่ต่างดีใจที่ได้มีสิทธิทางกฎหมายอย่างเท่าเทียมจริงๆ เสียที

ฤทัยรัตน์ ยาสมุทร์ และ นลินี ณ เชียงใหม่ (จากซ้ายไปขวา)

ฤทัยรัตน์ ยาสมุทร์ และ นลินี ณ เชียงใหม่ คู่สมรสที่มาร่วมจดทะเบียนในวันนี้ บอกเล่าว่า พวกเธอรู้สึกดีใจมากที่ได้จดทะเบียนสมรสร่วมกันในวันแรกที่กฎหมายได้บังคับใช้ ฤทัยรัตน์ยังเล่าต่อว่าในตอนแรกพวกเธอมีความกังวลเรื่องสิทธิและการตัดสินใจในการรักษาพยาบาลของกันและกันว่า หากไม่ได้จดทะเบียนสมรสกันแล้วมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเราเป็นอะไรขึ้นมา สิทธิในการตัดสินใจเรื่องนี้มันก็จะไปอยู่กับพ่อแม่หรือญาติของอีกฝ่าย ซึ่งบางทีเขาอาจจะไม่ยอมรับในการตัดสินใจของพวกเธอตามที่ได้คุยกันไว้ก่อนก็ได้ การมีสมรสเท่าเทียมจึงทำให้ความกังวลของพวกเธอนั้นหายไป เพราะมีสิทธิของคู่สมรสตามกฎหมาย

“ตอนแรกเรากังวลใจเรื่องสิทธิบางอย่างที่มันไม่เอื้อต่อคู่รัก LGBTQ+ แบบเรา แต่พอกฎหมายผ่านแล้ว เรามาจดทะเบียนกัน เรามีสิทธิตรงนี้แล้ว มันก็สบายใจขึ้นมา อย่างน้อยเรื่องสิทธิในการตัดสินใจเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล เราก็ได้สิทธิที่จะสามารถตัดสินใจแทนกันและกันได้แล้ว”

ดร.ฤทธิพล กันธาสุวรรณ์ และ ณภัทร ศุขเสงี่ยม (จากซ้ายไปขวา)

เช่นเดียวกับ ดร.ฤทธิพล กันธาสุวรรณ์ และ ณภัทร ศุขเสงี่ยม คู่สมรส LGBTQ+ ที่เล่าว่าพวกเขาดีใจมากที่ได้จดทะเบียนสมรสกันได้ตามกฎหมาย หลังจากที่ได้แต่งงานกันมากว่า 2 ปี โดยมองว่าการจดทะเบียนสมรสนั้นเป็นเหมือนหลักประกันที่ทำให้พวกเขามั่นใจว่าคู่สมรสของเขาจะได้รับสิทธิทางกฎหมายร่วมกันอย่างแท้จริง

“ตอนแรกก็ไม่คิดว่ากฎหมายนี้จะผ่าน เพราะเราก็สู้กันมานานมากกว่าจะผ่านมาได้ พอกฎหมายผ่าน เราก็รู้สึกดีที่มันมีการสมรสเท่าเทียมเกิดขึ้น เพราะสิทธิต่างๆ ที่ผมได้รับจากต้นสังกัดบริษัท คู่สมรสผมก็จะได้รับด้วย ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี สบายใจขึ้น เหมือนมีหลักประกัน การันตี ว่าคุณจะได้รับสิทธิหรือมีอำนาจทำธุรกรรมต่างๆ แทนคู่สมรสได้”

วรพรรณ ปันติมุ่ง และ ภัทรพล พลภัทรมงคล (จากซ้ายไปขวา)

วรพรรณ ปันติมุ่ง และ ภัทรพล พลภัทรมงคล (จากซ้ายไปขวา)

นอกจากคู่สมรสที่ได้จดทะเบียนกันแล้ว ภายในงานยังมีกลุ่ม LGBTQ+ ที่ได้มาร่วมยินดีกับวันแรกของการบังคับใช้กฎหมายนี้ โดย วรพรรณ ปันติมุ่ง บอกเล่าวกับ Lanner ว่า เธอรู้สึกดีใจมาก และการมาร่วมงานในวันนี้ ก็ทำให้เธอนั้นรู้สึกว่าพวกเราทุกคนเท่ากันแล้วจริงๆ

เช่นเดียวกับ ภัทรพล พลภัทรมงคล ที่เล่าว่าตนยินดีกับคู่สมรสในวันนี้ทุกคู่ โดยภัทรพลก็ได้บอกอีกว่าในวันข้างหน้าก็อยากจะมีโอกาสใช้ข้อกฎหมายนี้เช่นกัน 

“เพราะเราเองก็เป็น LGBTQ+ คนหนึ่งที่มีความฝันเหมือนคนอื่นทั่วไปว่า ถ้าเราได้แต่งงานเราก็อยากมีสิทธิทางกฎหมายเหมือนคู่รักหญิงชาย พอวันนี้สมรสเท่าเทียมมันเกิดขึ้นแล้ว พวกเราจดทะเบียนสมรสได้แล้ว เราก็รู้สึกว่าดีใจมากๆ และหวังว่าสักวันจะเป็นโอกาสของเราบ้างที่ได้จดทะเบียนสมรสเหมือนคู่รักคู่อื่นๆ”

ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง