พฤษภาคม 9, 2024

    พอนึกถึงตอนนั้นก็สนุกดี ออกเสียง ร.เรือ ผิดตลอด

    Share

    16/07/2022

    ผลงานและภาพถ่าย : ส่วยอิง


    อิงอิง เยาวชนชาวไทใหญ่ที่อาศัยมาในไทยนานกว่า 7 ปี ได้บอกเล่าถึงมุมมองของเธอเองต่อการศึกษาของประเทศไทย
    “สำหรับใครหลาย ๆ คน ในวัยเด็กโรงเรียนอาจเป็นสถานที่ที่ทำให้มีความสุข และสร้างความทรงจำมากมาย แต่สำหรับเราแล้ว เราไม่รู้จักด้วยซ้ำว่าชีวิตในรั้วโรงเรียนนั้นหน้าตาเป็นยังไง”


    “เราชื่ออิงอิง เราเป็นลูกคนที่ 3 จากพี่น้องทั้งหมด 4 คนในครอบครัวชาวไทใหญ่ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านที่มีชื่อว่าเมืองเปง ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงตุงประมาณครึ่งวันหากเดินทางด้วยรถยนต์ครอบครัวเราเป็นครอบครัวที่ลำบากเราเลยตัดสินใจออกจากบ้านที่รัฐฉาน ประเทศเมียนมา และมาเป็นแรงงานในประเทศไทย ทั้ง ๆ ที่เราไม่เคยรู้จักภาษาไทยเลย”


    “เราไม่มีโอกาสได้เรียนหนังสือเพราะว่าครอบครัวของเราไม่มีกำลังทรัพย์มากพอที่จะส่งเสียให้เรียนได้ และเท่าที่พอจะจำความได้เราก็ต้องทำงานออกหาเงินช่วยพ่อแม่แล้ว โดยงานแรก ๆ ที่เราได้ทำคือการเป็นพี่เลี้ยงเด็กของญาติที่ต้องออกจากบ้านในช่วงกลางวันเพื่อไปทำงานในไซต์ก่อสร้าง”


    “และด้วยการที่เราเข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทยโดยที่ไม่สามารถอ่าน เขียนภาษาไทยได้เลยนั้น ทำให้เราถูกเอารัดเอาเปรียบอยู่ตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม ตั้งแต่การไปซื้อของทั่ว ๆ ไปในร้านของชำ หรือแม้กระทั่งการถูกนินทาว่ากล่าวจากเจ้านายและเพื่อนร่วมงาน ซึ่งทำให้เรากลัวที่จะย้ายที่ทำงานหรือหางานใหม่เพราะกลัวว่าจะถูกโกงมากกว่าเดิม”


    “ความเท่าเทียมไม่เคยมีไว้สำหรับแรงงานแบบเราอยู่แล้ว” นี้คือสิ่งที่เราได้เรียนรู้และยอมรับจากการอาศัยอยู่ในประเทศไทยในฐานะแรงงานข้ามชาติ


    “เมื่อก่อนเราจะชอบคิดว่าการเรียนนั้นไม่สำคัญมีแต่เงินเท่านั้นแหละที่สำคัญ แต่พออยู่อยู่ในประเทศไทยนานขึ้นและได้เห็นเพื่อน ๆ ที่เข้าเรียนหนังสือได้ทำงานที่ไม่ต้องใช้แรงเพียงอย่างเดียว เพราะเขามีตัวเลือกมาขึ้นในการทำงาน ทำให้เราคิดได้ว่า ถ้าเรามีความรู้ เรียนหนังสือสูง ๆ ก็จะไม่ถูกคนอื่นเอารัดเอาเปรียบ และสามารถมีทางเลือกในการทำงานมากขึ้น”


    “ทุกวันนี้เราเลยภูมิใจกับตัวเองมาก ๆ ที่วันนั้นตัดสินใจเข้าเรียนใน กศน. ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่โรงเรียนใหญ่โตก็ตาม แต่มันก็ทำให้เราในตอนนี้ ไม่ถูกคนอื่นมาเอารัดเอาเปรียบเหมือนเมื่อก่อนและสามารถทำอะไรหลายอย่างได้ด้วยตัวเองมากขึ้น อย่างเช่นการต่อบัตรประจำตัวแรงงานของเราเอง ที่เมื่อก่อนเราจะจ้างนายหน้าในการทำให้เพราะเราไม่สามารถอ่านหรือเขียนภาษาไทยได้”


    “ทุกวันนี้การเรียนจึงสำคัญมาก ๆ สำหรับเรา เพราะนอกเหนือจากความรู้แล้วยังได้มีเพื่อนใหม่ ๆ ได้เข้าสังคม ได้เรียนรู้อะไรหลาย ๆ อย่าง ถึงแม้ว่าตัวเองจะต้องพยายามให้มากกว่าคนอื่นด้วยสถานะของแรงงานข้ามชาติก็ตาม ความพยายามของเรานี้แหละ ที่พาตัวเองมาจนถึงทุกวันนี้ได้ วันที่เราได้มีสิทธิเลือกทำหรือไม่ทำอะไรหลาย ๆ อย่างได้”


    แต่ถึงยังไงก็ตาม เราก็ยังเชื่อว่า “การเรียนรู้ นั้นไม่มีวันสิ้นสุด”


    Story from 9 % ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านหลายแง่มุม ทั้งภาพถ่ายและงานเขียน ที่ชวนไปสำรวจเรื่องราวชีวิตของประชากร 9 %​

    นิทรรศการนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือของ มูลนิธิเสมสิกขาลัย, เครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพเยาวชนภาคเหนือ, Lanna project และ In Chiang Mai จัดแสดงเมื่อวันที่ 21-22 มกราคม 2565 ณ ข่วงประตูท่าแพ เชียงใหม่​

    โดยผลงานภาพถ่ายและงานเขียนจากนิทรรศการนี้จะเผยแพร่อีกครั้งผ่าน Lanner ตั้งแต่วันที่ 11 – 19 กรกฎาคม 2565 ​

    #9%STORIES​
    #Lanner

    Related

    ไม่ได้ร้องขอ หากแต่มาเพื่อบอกกล่าว ‘บุญร่มไทร’ คนจนเมืองริมทางรถไฟ ความเจริญที่ข้ามผ่านคนริมขอบ   

    เรื่อง : ปภาวิน พุทธวรรณะ ช่วงสายของวันธรรมดาทั่วไปในปลายเดือนกุมภาพันธ์ ทุกอย่างดำเนินไปตามครรลองอย่างที่มันควรจะเป็น รถไฟขบวนมหาชน หมายที่ 371 ได้ชะลอความเร็วเพื่อหยุดรับผู้คนเดินทางกลับบ้านสู่ภาคตะวันออก...

    ร้อยเรียงเรื่องเชียงแสน พลวัตการพลัดถิ่นฐานของผู้คนบนสายธารประวัติศาสตร์ สงครามและสนามรบ

    เรื่อง : นวลคำ ขะยอมแดง สุภาพชนคนเมือง “เชียงแสน” เป็นชื่อบ้านนามเมืองแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ปัจจุบันเป็นที่รับรู้กันในหมู่ผู้คนทั่วไปว่าคือชื่อของอำเภอชายแดนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงรายซึ่งมีอาณาเขตติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน คือ สปป....

    ก้าวไปข้างหน้า กับความไม่แน่นอนของปัญหาไฟป่า-หมอกควันจังหวัดเชียงใหม่

    เรื่อง : ชยา วรรธนะภูติ ไฟ ฝุ่นและมลพิษใน “อุตสาหกรรมนิยมยุคปลาย” นับตั้งแต่เมื่อสองร้อยกว่าปีที่แล้ว ด้วยอิทธิพลของการล่าอาณานิคม การปฏิวัติอุตสาหกรรม และการปฏิวัติการเกษตรในทวีปต่างๆ...